ไม่มีเหตุพลิกล็อคใดๆเกิดขึ้นในเกมแดงเดือดระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ 19 เม.ย.
และเป็นอีกเกมที่ หงส์แดง ผู้เชี่ยวชาญในด้านการสอยตาข่ายยังคงคลำเป้าทีมคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วตั้งแต่หัววันอีกตามเคยก่อนกำชัยไปแบบสบายเกือก 4-0 โดยมี 5 ประเด็นที่ต้องพูดถึงดังนี้
1.โรนัลโด้ ไม่ได้เดินเดียวดาย
นับเป็นข่าวเศร้าก่อนเกมแดงเดือดสำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเพิ่งกดแฮททริคใส่ นอริช นัดก่อน แต่เจ้าตัวเสียลูกชายฝาแฝดจนมีอันต้องพลาดเกมสำคัญที่ แอนฟิลด์
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นคู่อริกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แฟนบอล ลิเวอร์พูล ก็ร่วมกันปรบมือส่งกำลังใจให้กับขุนพลทีมคู่ปรับที่ประสบกับความสูญเสียครั้งสำคัญของชีวิตในนาทีที่ 7 ของเกมซึ่งเป็นหมายเลขเสื้อของ "ซีอาร์เซเว่น"
อันที่จริง ก่อนหน้านี้ในเกมตัดเชือก เอฟเอคัพ กับ แมนฯ ซิตี้ ลิเวอร์พูล จัดพิธีรำลึกครบรอบเหตุโศกนาฏกรรมที่ ฮิลล์สโบโร่ ด้วย แต่ถูกกองเชียร์ เรือใบสีฟ้า โห่ใส่ในระหว่างการไว้อาลัยจนทำเอาทีมจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ต้องแถลงขอโทษแทนสาวก
2.รังนิก วางหมากพลาดตั้งแต่ก่อนลงสนาม
ไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์ที่ ราล์ฟ รังนิก ใส่ชื่อ ปอล ป็อกบา ลงเล่นที่ แอนฟิลด์ แม้ดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสจะมีฟอร์มที่เลวร้ายในเกมก่อนหน้านี้กับ นกขมิ้นเหลืองอ่อน จนต้องโดนเปลี่ยนออก และถูกแฟนบอล ผีแดง โห่ใส่
เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่นายใหญ่ขัดตาทัพจากแดนไส้กรอกต้องเลือกส่ง ป็อกบา ลงสนามเนื่องจากทีมขาดสองกองกลางทั้ง เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ยังเจ็บอยู่ แต่ปรากฏว่าหลังจากเกมผ่านไปได้แค่ 10 นาที กองกลางเฟรนช์แมนก็เดี้ยงจนต้องเดินออกไปเนื่องจากสภาพความฟิตไม่เต็มร้อย และทำให้ทีมต้องเสียโควต้าตัวสำรองตั้งแต่เนิ่นๆ
จะว่าไปแล้ว ในเมื่อ ป็อกบา ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างเลวร้าย รังนิก ก็ไม่สมควรเลือกใช้งานเขา และน่าจะส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ออกสตาร์ตตั้งแต่แรกเหมือนเกมกับ นอริช ยังจะดีซะกว่าเนื่องจากพ่อค้าแข้งอิงลิชเล่นได้ไม่เลวกับการออกสตาร์ตในลีกเป็นตัวจริงนัดที่สองในซีซั่นนี้ของเขา
นอกจาก ป็อกบา แล้ว การสลับให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ ย้ายไปสวมบทแบ็คซ้ายเหมือนนัดก่อนตอนที่ อเล็กซ์ เตลเลส โดนเปลี่ยนออกเนื่องจากเล่นได้ไม่เอาไหนก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเช่นกันของปรมาจารย์ชาวเยอรมันเนื่องจากสองประตูที่ ลิเวอร์พูล ออกนำเร็วล้วนเป็นเกมบุกขึ้นทางฝั่งขวาทั้งนั้น
จนในที่สุด รังนิก ต้องปรับให้ อาร่อน วาน บิสซาก้า สลับไปเล่นทางซ้ายแทนในช่วงท้ายครึ่งแรกเพื่อปิดกั้นเกมรุกของทีมเจ้าบ้านที่เน้นโจมตี ดาโลต์ อย่างหนักก่อนที่เกมใน 45 นาทีแรกจะจบลงโดย ผีแดง ไม่มีโอกาสสับไกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
3.เกมนี้ที่ ซาลาห์ รอคอย
หลังร้างราจากการสอยตาข่ายมานานถึงแปดเกมติดต่อกัน ในที่สุด โม ซาลาห์ ก็สบโอกาสเหมาะที่ได้เหยื่ออันโอชะนาม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาให้เถือถึงบ้าน
และไม่ผิดความคาดหมายใดๆที่กองหน้าทีมชาติอียิปต์ปลดล็อคตัวเองได้ซะทีเนื่องจากเจ้าตัวนิยมสอยตาข่าย ผีแดง เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว แถมก่อนจะยิงประตูได้ "บังโม" ยังจ่ายบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ เข่นประตูแรกอีกด้วย
ฉะนั้นแล้ว ดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ในนาทีนี้จึงเป็นนักเตะรายที่สองที่ทั้งยิง ทั้งจ่ายในสองเกมที่ดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียวกันต่อจากที่ เมซุต โอซิล ทำได้เป็นรายแรกในซีซั่น 2015/16
รวมถึงเกมนี้ ซาลาห์ ตะบันประตู แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 9 ลูกแล้วจาก 10 นัดหลังที่ได้บู๊กันโดยเกมแรกในลีกเดือนต.ค.เขากระหน่ำแฮททริคที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พาทีมกำชัยได้ 5-0
และจากสองประตูที่ทำได้ในเกมล่าสุดกับ ผีแดง ทำให้ ซาลาห์ มีผลงานเทียบเท่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด แล้วต่อการเป็นขุนพล เร้ด แมชีน ที่ซัดประตูในเกมแดงเดือดได้มากที่สุด 9 ลูก
ยิ่งไปกว่านั้น สตาร์แอฟริกันยังเป็นนักเตะคนแรกเช่นกันที่ตะบันตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นเดียวได้รวม 5 ประตู
4.ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะเชื่อถือได้มั้ย
ก่อนเกมแดงเดือด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยังคำนวณว่า แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มากกว่า ลิเวอร์พูล เนื่องจากมีแต้มมากกว่าหนึ่งแต้ม และอาจมองว่า เรือใบสีฟ้า มีเกมที่เหลือเบากว่าเช่นกัน
ถึงอย่างนั้น หลังจาก เร้ด แมชีน ทุบ เร้ด เดวิลส์ เก็บสามแต้มแซงนำได้สำเร็จ แมนฯ ซิตี้ ก็น่าจะลงเล่นด้วยความกดดันอย่างมหาศาลในเกมต้อนรับ ไบรท์ตัน คืนวันพุธนี้
ไม่เพียงแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะต้องพาทีมคว้าสามแต้มเพื่อกลับไปนั่งเก้าอี้จ่าฝูงตามเดิมเท่านั้น แต่สภาพทีมของเขาเริ่มมีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวน ต่างไปจาก ลิเวอร์พูล ซึ่งไร้ปัญหาในจุดนี้ และพร้อมลงเล่นแบบมาราธอนโดยมีเป้าหมายกวาดแชมป์ทั้งสี่รายการ แถมยังสามารถส่งตัวสำรองที่มีชั้นเชิงไม่ด้อยไปกว่าบรรดาตัวจริงลงไปเหนื่อยแทนในช่วงท้ายเกมได้ด้วยหลังจากพวกเขาทำงานได้อย่างลุล่วงแล้วในแต่ละเกม
เท่านั้นไม่พอ ฟอร์มสองเกมหลังของ นกนางนวล สามารถบุกไปชนะได้ทั้ง อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส จึงคาดว่าไม่น่าจะเป็นเกมที่ง่ายสำหรับ แมนฯ ซิตี้ แน่แม้เกมแรกของซีซั่น เรือใบสีฟ้า จะบุกคว้าชัยได้ 4-1 ก็ตาม หากแต่ชั่วโมงนี้สถานการณ์ของแชมป์เก่าไม่ชวนให้น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่แล้วว่าจะเอาชนะความกดดันที่กำลังถาโถมเข้าใส่ได้หรือเปล่า
นอกจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งอาจเปลี่ยนการคำนวณใหม่แล้ว ร้านรับพนันก็น่าจะปรับลดราคาจ่ายการคว้าสี่แชมป์ของ ลิเวอร์พูล ลงไปอีกจากที่เคยตั้งราคาเอาไว้ 3,000-1 ในต้นซีซั่น และลดลงเหลือแค่ 7-1 เท่านั้นก่อนเกมแดงเดือดเมื่อวันอังคาร
นอกจากแชมป์ คาราบาวคัพ จะมีโอกาสครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก มากขึ้นแล้ว อย่าลืมว่าพวกเขายังเป็นทีมเต็งแชมป์ในอีกสองรายการที่เหลือด้วยไม่ว่าจะเป็น เอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก
จากการคำนวณของ สกาย สปอร์ต มีการกำหนดให้โอกาสที่ เร้ด แมชีน จะเป็นฝ่ายได้แชมป์ เอฟเอคัพ 66% ขณะที่ เชลซี คู่ปรับเก่าในนัดชิงดำถ้วยเขาควายมีโอกาสครองแชมป์ 34%
สำหรับถ้วยหูใหญ่ซึ่งทีมจาก แอนฟิลด์ ขยับขึ้นเป็นเต็งหนึ่งเรียบร้อยแล้วหลังจาก บาเยิร์น มิวนิค ตกรอบแปดทีมโดยพวกเขาได้ตัดเชือกกับ บียาร์เรอัล ทีมเต็งบ๊วยนั้น สกาย สปอร์ตส์ กำหนดโอกาสซิวแชมป์ของ หงส์แดง อยู่ที่ 44% ตามด้วย แมนฯ ซิตี้ 43% ,เรอัล มาดริด 10% และ บียาร์เรอัล 3%
5.เทนฮาก เตรียมตัวปวดกระบาลได้เลย
ถ้าไม่คิดเปลี่ยนใจย้ายจาก อาแจ็กซ์ มากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นหน้า เอริค เทน ฮาก ก็สมควรพกยาดม ยาลม ยาหม่อง และยาพาราเซตามอลติดตัวมาด้วยเป็นกระสอบ
ไม่เฉพาะเกมบุกมาแพ้ ลิเวอร์พูล ยับเยินดูไม่จืดเท่านั้น หากแต่ ผีแดง แสดงให้เห็นมานานแล้วว่ามีแต่ปัญหาเต็มไปหมดในทุกๆขุมกำลัง และยากเกินจะเยียวยาอย่างแท้จริงต่อการพยายามกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ดังเดิมอีกคำรบ
จากที่ รังนิก ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมบุกมาเยือน ลิเวอร์พูล มันคือความจริงร้อยเปอร์เซนต์ที่เขาชี้ว่า ผีแดง จำเป็นต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเนื่องจากมีแค่ ดาบิด เด เคอา คนเดียวเท่านั้นที่สามารถเป็นที่พึ่งของทีมได้
เท่ากับว่า เร้ด เดวิลส์ จำเป็นต้องอาศัยตลาดนักเตะอีกหลายรอบซื้อดาวดังมาเสริมศักยภาพแทนพวกไร้น้ำยาที่มีอยู่ หากแต่ปัญหาก็คือในเมื่อทีมตกต่ำถึงเพียงนี้ แถมอาจไม่มีสิทธิ์ลงเล่นฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย แล้วอย่างนี้สตาร์ดังรายไหนจะนึกอยากย้ายมาตกอับกับ โรงละครแห่งความฝัน
