ปฏิเสธไม่ได้ว่า โอเดียน อิกาโล่ กองหน้าตัวยืมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในฟอร์มยอดเยี่ยม หลังเพิ่งทำได้อีก 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากเกมที่ต้นสังกัดบุกถล่ม แอลเอเอสเค ลินซ์ 5-0 ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
อิกาโล่ ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาร่วมทีมเมื่อช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาด้วยสัญญายืมตัวจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว สโมสรในแดนมังกร และมาสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับบรรดาแฟนบอลได้อย่างรวดเร็ว จนล่าสุด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือาวนอร์เวย์ ออกมาแย้มว่าอาจจะให้ อิกาโล่ อยู่กับทีมแบบถาวรไปเลย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมดาวยิงชาวไนจีเรียถึงควรได้รับสิ่งนั้น
พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้ว
นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาดาวเตะตัวยืมจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ก็พิสูจน์ให้เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่เป็นดาวยิงขัดตาทัพแทน มาคัส แรชฟอร์ด ที่ต้องพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ
เวลานี้ อิกาโล่ กระซวกไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลถ้วยจากการออกสตาร์ตเป็นตัวจริง 3 เกมหลังสุด ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว โดยมีทีเด็ดทีขาดในการจบสกอร์ และหากยังรักษาฟอร์มเก่งได้สม่ำเสมอก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ตัดสินใจซื้่อขาดในที่สุด
สไตล์ที่แตกต่าง
การได้ อิกาโล่ มาอยู่ในทีมนั้นทำให้ แมนยู มีศูนย์หน้าตัวเป้าธรรมชาติที่พวกเขาขาดหายไป และมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกับกองหน้ารายอื่นในทีมอย่างชัดเจนทั้ง มาคัส แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่เน้นการใความเร็วในการปั่นป่วนคู่แข่งซะมากกว่า
ส่วนสไตล์การเล่นของ อิกาโล่ มีทักษะในการไปกับบอลได้ดี มีความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด ช่วยมาเพิ่มมิติในการเจาะตาข่ายคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม
ประสบการณ์สูง-ราคาถูก
ด้วยวัย 30 กะรัตทำให้เจ้าตัวกลายเป็นแข้งที่อายุมากที่สุดในบรรดาแนวรุกของทีมชุดนี้แล้วที่มีความเก๋าเกมที่จะคอยคุมน้องๆในทีมได้ด้วย นอกจากนี้การมีประสบการณ์กับ วัตฟอร์ด ในเวทีพรีเมียร์ลีกมาแล้วทำให้เจ้าตัวเข้าใจในระบบการเล่นของฟุตบอลอังกฤษที่จะนำมาปรับใช้ในการเล่นให้กับทัพ "ปีศาจแดง"
และด้วยวัยแตะเลขสามทำให้หาก แมนยู ต้องการเซ็นสัญญาเจ้าตัวมาร่วมทีมแบบถาวรก็คงมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป แทนที่จะไปหาแข้งระดับท็อปรายใหม่ในตลาดนักเตะซึ่งอาจโดนโก่งราคา และยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงไปในตัวว่าจะเข้ามาปรับตัวกับทีมได้อีกหรือไม่