สื่อผู้ดี รายงาน พรีเมียร์ลีก อาจจะโดนฟ้องร้องทางกฎหมายหากตัดสินใจจบฤดูกาลด้วยตารางคะแนนปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้ทีมท้ายตาราง 3 สโมสรตกชั้น โดยชี้กฎข้อบังคับระบุชัดเจนหากพวกเขาตกชั้นทั้งๆ ที่แข่งยังไม่จบ สามารถดำเนินคดีฟ้องร้องเพื่อความเป็นธรรมได้
พรีเมียร์ลีก อาจจะต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางกฎหมายจากสโมสรที่โดนสั่งให้ตกชั้น ถ้าหากพวกเขาตัดสินใจจบฤดูกาลนี้พร้อมกับยึดตารางคะแนนในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของ เดลี่ เมล สื่อชั้นนำในประเทศอังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
หลังจากการประชุมฉุกเฉินในช่วงสัปดาห์นี้บอร์ดบริหารได้พูดคุยกันว่าฤดูกาลนี้จะได้บทสรุปแบบไหน หลังจากที่วงการลูกหนังเมืองผู้ดีต้องประสบปัญหาใหญ่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือชื่ออย่างเป็นทางการ "โควิด-19" ในเวลานี้
สำหรับมาตรการขั้นต้นก็คือการระงับโปรแกรมทุกๆ ดิวิชั่นไปจนกระทั่งวันที่ 3 เมษายนเป็นอย่างน้อย แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเลื่อนโปรแกรมไปนานกว่านั้นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรคาดการณ์สถานการณ์นี้อาจจะยาวไปถึงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนเลยทีเดียว
ถ้าหากในกรณีที่เกมลีกไม่สามารถกลับมาแข่งกันต่อไป พรีเมียร์ลีก ต้องตัดสินใจว่าจะให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกหรือไม่เนื่องจากพวกเขามีคะแนนทิ้งห่างถึง 25 แต้ม และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ 3 สโมสรท้ายตารางซึ่งได้แก่ นอริช ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และ บอร์นมัธ จะเป็นยังไง เพราะหากมีการปรับทั้ง 3 ทีมตกชั้น งานนี้พวกเขาก็เตรียมที่จะดำเนินการใช้กฎหมายเล่นงานทันที
เนื่องจากตามกฎ ข้อ ซี 14 (C 14) ระบุว่าสามสโมสรท้ายตารางซึ่งจะต้องตกชั้นเมื่อจบฤดูกาล แต่หากซีซั่นแข่งไม่จบตามโปรแกรมแต่ดันถูปรับให้ตกชั้น งานนี้ทั้ง 3 ทีมมีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้อง พรีเมียร์ ลีก ได้
ส่วนอีกทางออกก็คือการยึดแผนก่อนหน้านี้ที่มีการเสนอว่าในซีซั่นหน้ามีทีมลงเล่น พรีเมียร์ลีก 22 ทีม และยกเลิกศึก คาราบาว คัพ ในฤดูกาลหน้า เพื่อที่จะได้ทำให้โปรแกรมลีกลงตัวได้แม้ว่าจะมีทีมลงเล่นถึง 22 ทีม และในซีซั่น 2020-21 ทีมที่ต้องตกชั้นก็จะมี 5 ทีม เพื่อทำให้สุดท้ายแล้วลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีกลับไปมี 20 ทีมตามเดิม