นับตั้งแต่ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช เข้าเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 เชลซี ก็กลายเป็นสโมสรระดับมหาเศรษฐี และมีข่าวเกี่ยวโยงกับนักเตะชั้นยอดระดับโลกมากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่า มีหลายดีลที่พวกเขาทำได้สำเร็จ แต่ก็มีหลายรายเช่นกัน ที่พลาดทำหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย และนี่คือ 11 นักเตะชื่อดังที่เกือบได้ย้ายเข้าสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์
- ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์
ช่วงซัมเมอร์ปี 2018 อลีสซง ย้ายจาก อาแอส โรม่า ไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติโลกสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู ณ เวลานั้นถึง 66.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,605.2 ล้านบาท) แต่ก่อนหน้านั้น อลีสซง คือคนที่ เชลซี เล็งเอาไว้ โดยหวังให้มาแทน ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายด่านชาวเบลเยียม ที่ย้ายไป เรอัล มาดริด ทว่าสุดท้าย อลีสซง เลือกซบ "หงส์แดง" และนั่นทำให้ เชลซี ต้องหันไปคว้าตัว เกปา อาร์รีซาบาลาก้า นายทวารทีมชาติสเปน จาก แอธเลติก บิลเบา ในราคา 71 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,769 ล้านบาท) แทน พร้อมกับทำให้ เกปา กลายเป็นนายประตูค่าตัวแพงสุดในโลกแทน อลีสซง
- แบ็กขวา : ดานี่ อัลเวส
อัลเวส คว้าแชมป์มากมายถึง 23 รายการ สมัยเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า แต่มันอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น หากในปี 2007 เขาย้ายจาก เซบีย่า ไป เชลซี แทน ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวยอมรับเองเลยว่า เฉียดมากๆ กับการได้ย้ายไปยังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพราะได้รับไฟเขียวจาก เซบีย่า เรียบร้อยแล้ว
"ที่ผมไม่ได้ย้ายไป เชลซี มันเป็นเพราะสโมสร ไม่ใช่เพราะผม ตอนนั้นผมคิดว่าทุกอย่างมันได้บทสรุปแล้ว ผมกำลังจะได้ไปร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่า เขาได้รับข้อมูลผิดหรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผมไม่อยากย้ายไปที่นั่น หรืออะไรประมาณนั้น เพราะหลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราก็ดูแย่ลง แต่มันไม่ใช่ความผิดของผม"
- เซนเตอร์แบ็ก : จอห์น สโตนส์
ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2015 โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้ สโตนส์ มาเสริมแนวรับ เชลซี แต่ เอฟเวอร์ตัน ยืนยันที่จะไม่ปล่อย และสี่เดือนต่อมา "เฮียมู" โดนไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม "สิงห์บูล์ส" ทำให้ช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ทีมที่ได้ตัว สโตนส์ ไม่ใช่ เชลซี แต่เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ซิวไปในราคา 47.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,852.5 ล้านบาท)
- เซนเตอร์แบ็ก : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
น่าจะเป็นอีกหนึ่งดีลที่แฟนบอล "สิงห์บลูส์" เสียดายอย่างมาก โดยในปี 2017 เชลซี กับ ลิเวอร์พูล เปิดศึกชิงตัว ฟาน ไดค์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งสุดท้ายเป็น "หงส์แดง" ที่เข้าวิน ด้วยการยอมฟาดเงินก้อนโตระดับ 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,925 ล้านบาท) ทั้งๆ ที่เงินระดับนี้ เชลซี สามารถจ่ายได้สบายๆ
- แบ็กซ้าย : โรแบร์โต้ คาร์ลอส
คาร์ลอส ปิดฉากการเล่นให้ เรอัล มาดริด ไว้ที่ 11 ปี ด้วยการย้ายไปค้าแข้งที่ตุรกีกับ เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2007 แต่จริงๆ แล้วตอนนั้นเขาเกือบได้สวมยูนิฟอร์ม "สิงห์บลูส์"
"ผมได้คุยเรื่องนี้ (เรื่องย้ายไป เชลซี) กับ โรมัน อบราโมวิช เราได้เจอกันที่กรุงปารีส แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ" ตำนานแบ็กซ้ายทีมชาติบราซิล เคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์
- มิดฟิลด์ตัวกลาง : สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2005 หรือหลังจากที่ เจอร์ราร์ด ช่วย ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่เพียงไม่กี่สัปดาห์ เจอร์ราร์ด ก็ทำช็อกวงการลูกหนัง โดยเฉพาะสาวก "เดอะ ค็อป" ด้วยการขอขึ้นบัญชีย้ายทีม เพราะต้องการย้ายไปร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ เชลซี
แน่นอนว่า มูรินโญ่ ชื่นชอบและคลั่งไคล้ในฝีเท้าของ เจอร์ราร์ด เป็นอย่างมาก และวาดฝันที่จะสร้างสุดยอดสามประสานแดนกลาง "เจอร์ราร์ด-แลมพาร์ด-มาเกเลเล่" ขึ้นมา ทว่าสุดท้าย "สตีวี่จี" เปลี่ยนใจ และเลือกเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ "หงส์แดง" พร้อมรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท) และแน่นอนว่า สาวก "เดอะ ค็อป" ให้อภัย และ เจอร์ราร์ด ก็อยู่ค้าแข้งในถิ่นต่อไปแบบยาวๆ ถึง 10 ปี
- มิดฟิลด์ตัวกลาง : ปอล ป็อกบา
ความสัมพันธ์ระหว่าง ปอล ป็อกบา กับ โชเซ่ มูรินโญ่ อาจพังทลายลงที่ โอลด แทร็ฟฟอร์ด แต่นั่นไม่ใช่เพราะ มูรินโญ่ ไม่ชื่นชอบในฝีเท้าของ ป็อกบา เพราะในช่วงซัมเมอร์ปี 2015 มูรินโญ่ สมัยคุม เชลซี เคยพยายามอย่างมากที่จะคว้าตัว ป็อกบา มาร่วมทีม แต่ตอนนั้นถูก ยูเวนตุส ขวางทาง ซึ่งเรื่องนี้ มิโน่ ไรโอล่า เอเจนต์คนดังของดาวเตะเฟร้นช์แมน เคยพูดเอาไว้
"เมื่อปีที่แล้ว ปอล เกือบย้ายออกจาก ยูเวนตุส ก็เพราะ มูรินโญ่ นี่แหละ ตอนนั้นเขา (มูรินโญ่) ยังคุม เชลซี แต่ ยูเวนตุส กับผมได้ตกลงกันไว้ว่า ขอให้ ป็อกบา อยู่ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกและ แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ก่อน จากนั้นนักเตะจะย้ายไปไหนก็ได้"
- กองกลางตัวรุก :โรนัลดินโญ่
เป็นที่รู้กันว่า ในปี 2003 โรนัลดินโญ่ เกือบได้กลายเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่าสุดท้ายเขาเลือกย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไปค้าแข้งในเวที ลา ลีกา สเปน กับ บาร์เซโลน่า แทน แต่น้อยคนนักที่รู้ว่า จริงๆ แล้ว เชลซี ก็เป็นอีกทีมที่อยากได้ตัว "ดินโญ่" มากๆ ในเวลานั้น
"เชลซี เคยพยายามคว้าตัวผม และก็มีบางทีมที่สนใจจะเซ็นสัญญากับผมเช่นกัน" โรนัลดินโญ่ รำลึกความหลัง "พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่เล่นกันเร็วมาก และเล่นกันจริงจังตลอดเวลา แน่นอนว่า มันเป็นลีกที่น่าดูสุดๆ และไม่มีเบื่อเลย ผมไม่ค่อยได้ชมเกม พรีเมียร์ลีก แบบครบ 90 นาทีหรอก แต่ผมได้ดูไฮไลท์และการทำประตูจากเกม พรีเมียร์ลีก มากกว่าลีกอื่นๆ"
- ปีกขวา : โรบินโญ่
ในปี 2008 หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ยอดกุนซือชาวบราซิเลียน อยากเหลือเกินที่จะคว้าตัว โรบินโญ่ มาร่วมทีม เชลซี แต่บทสรุปกับกลายเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะสุดท้ายเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ตัว โรบินโญ่ จาก เรอัล มาดริด แทน ซึ่งในปี 2018 โรบินโญ่ ก็ได้ออกมาแฉเบื้องหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจ
"ตอนนั้นผมอยากไป เชลซี เพราะ สโคลารี่ บอกกับผมว่า ผมสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมของเขาได้ อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด กลับไม่เล่นด้วย เพราะไม่ปลื้มที่ เชลซี ดันรีบขายเสื้อที่มีชื่อผมปักอยู่ข้างหลัง ทั้งๆ ที่ดีลยังไม่ได้บทสรุป ซึ่งผมมั่นใจเลยว่า นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเจรจาล้มเหลว เพราะมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีสำหรับ เรอัล มาดริด"
- ปีกซ้าย : เนย์มาร์
นี่คืออีกหนึ่งแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ที่เกือบได้ย้ายมาโชว์เพลงแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งต้องย้อนกลับไปในปี 2010 เลยทีเดียว ที่ตอนนั้น เนย์มาร์ เป็นแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงวัย 18 ปี ในสังกัดของ ซานโตส
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์ ด้วยการเป็นอีกหนึ่งทีมที่พร้อมชิงตัว เนย์มาร์ แต่ เชลซี ดูจริงจังมากกว่า โดยลองทาบซื้อด้วยวงเงินสูงถึง 27 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,053 ล้านบาท) ทว่า ซานโตส เลือกที่จะเมิน และเก็บตัวนักเตะไว้กับทีมต่อไป ก่อนขายให้ บาร์เซโลน่า ในปี 2013
- กองหน้าตัวเป้า : เวย์น รูนี่ย์
ลูกยิงฟรีคิกที่ซัดใส่ สโต๊ค ซิตี้ ช่วงเดือนมกราคมปี 2017 ทำให้ รูนี่ย์ ก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่า 4 ปีก่อนหน้านั้น (ช่วงฤดูกาล 2012/13) เขาเคยกระสันมากๆ ที่จะย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึงขั้นว่ากันว่าขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเลยทีเดียว หลังได้รับข้อเสนอสุดล่อตาล่อใจจาก เชลซี
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่เจ้านายเก่าอย่าง เดวิด มอยส์ (เคยร่วมงานที่ เอฟเวอร์ตัน) กำลังเข้ามาคุมทัพ "ปีศาจแดง" แทน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 ทำให้ "รูน" ตัดสินใจอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ และในภายหลังเจ้าตัวก็ยืนยันเสียงแข็งว่า ตอนนั้นไม่เคยขอขึ้นบัญชีย้ายทีม แต่ก็ยอมรับว่า ตนมีคิดถึงเรื่องย้ายทีมเช่นกัน
