ก่อนอื่นอยากให้ลองจินตานาการกันดูนะครับว่าถ้าแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้าประกอบด้วย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่เป็นหน้าต่ำ หน้าซ้ายคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หน้าขวาคือ เจดอน ซานโช่ และหน้าเป้าคือ แฮร์รี่ เคน แล้วมันจะเป็นอย่างไร ???
อืมมมมมม...นะ
บอกได้คำเดียวว่า...สะเด่า...สะเด่าไปเลยอีน้องส์
ว่าแต่ผมกระแทกนิ้วถึงเรื่องนี้ทำแมวน้ำอะไร ???
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
เมื่อวันก่อนดาวถล่มประตูตีนพระกาฬของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ออกโรงมาให้สัมภาษณ์แบบมีเลศนัย เหมือนต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่าง
คุณพี่เขาให้การประมาณว่าตัวเองรัก "น้องไก่" มาก แถมจะรักแบบสุดหัวใจไปตลอดกาล เพียงแต่ถ้าอยู่ไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จสักที มันก็จำเป็นต้องแยกย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ บ้าง
ต่อให้รักแค่ไหนก็ตาม
ปัจจุบัน แฮร์รี่ เคน อายุ 26 ปีแล้ว แถมเดือนกรกฎาคมนี้ พี่แกจะมีอายุครบ 27 กะรัต
"เจ้าชายแฮร์รี่" อยู่กับ สเปอร์ส มานานกว่า 10 ปีแล้วนะครับ โดยขึ้นชุดใหญ่อย่างเต็มตัวมาเป็นปีที่ 6
ธรรมชาติของนักฟุตบอลทุกประเภท เฉพาะอย่างยิ่งดาวเตะระดับ "มหาดารา" นอกจากค่าเหนื่อยมหาศาลแล้ว ความสำเร็จระดับสูงนี่แหละคือสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างจงหนักระดับ "Most Wanted"
อนิจจา แฮร์รี่ เคน ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์อะไรเลยสักรายการเดียว (โถ...พ่อคุณ)
สำหรับ สเปอร์ส สุดยอดปรารถนาอย่างแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เพราะนโยบายของคลับไก่นั้นไม่เหมือน แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี
สเปอร์ส จัดเป็นทีมที่น่าขามเกรง เพียงแต่ในยุคนี้ที่ แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล คือมหาอำนาจลูกหนัง มันเป็นเรื่องยาก ดับเบิ้ลยากส์ที่พลพรรคกุ๊กไก่จะแทงทะลุปล้องขึ้นมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
ในเมื่อต้นสังกัดเดิมสนองความต้องการของตัวเขาไม่ได้ มันก็อาจถึงเวลาต้องสยายปีกออกสู่โลกกว้าง
คำให้การล่าสุดของ แฮร์รี่ เคน จึงเหมือนแกล้งทำสบู่หล่น เอ๊ย! จึงเหมือนแกล้งทำผ้าเช็ดหน้าตกต่อหน้าผู้ชายนั่นแหละครับ
แถวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า...อ่อยนะคะ
หลังจากที่กองหน้าทีมชาติอังกฤษวัย 26 ผู้นี้แกล้งทำผ้าเช็ดหน้าตกก็มีรายงานข่าวออกมารับลูกทันทีว่าทางคลับไก่ก็พร้อมปล่อยสมบัติล้ำค่าของตัวเองเหมือนกัน โดยตั้งค่าเสียหายเอาไว้ที่ 200 ล้านปอนด์
ย้ำอีกครั้งว่า 200 ล้านปอนด์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้เล่นคนใดในโลกนี้และดาวอังคารที่ถูกซื้อไปด้วยค่าตัวหลัก 200 ล้านปอนด์
คือใครกล้าจ่ายราคานี้ก็มาเอาตัวไปได้เลย
ราคานี้คงมีไม่กี่ทีมในโลกที่มีปัญญานะครับ
เพราะนอกจากจะมั่งคั่งแล้วต้องบ้าคลั่งด้วย อิอิอิ
แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในนั้น
อย่างไรก็ตาม
ราคาที่ตั้งเอาไว้ที่ 200 ล้านปอนด์ หากมีการเจรจาและต่อรองราคากันจริงๆ บางทีมันคงจะทะยานไปไม่ถึง แต่คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 150 ล้านปอนด์อยู่ดีนั่นแหละ
คิดแล้วก็...นะ
เมื่อ 23 ปีที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เคยซื้อกองหน้าของ สเปอร์ส อย่าง เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์
เมื่อ 14 ปีที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เคยซื้อมิดฟิลด์ของ สเปอร์ส อย่าง ไมเคิ่ล คาร์ริค มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 18.6 ล้านปอนด์
และเมื่อ 12 ปีที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยซื้อกองหน้าของ สเปอร์ส อย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ ทำลายสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร
ภาพตัดกลับมา ณ บัดเดี๋ยวนี้ ถ้าอยากจะได้กองหน้าตัวเก่งของ สเปอร์ส พวกเขาต้องวอดวายไม่ต่ำกว่า 150 ล้านปอนด์
พ่อมึงตาย!
อนึ่ง ว่าแล้วต้องขอบคุณ เปแอสเช มา ณ ที่นี้อีกครั้งที่พวกมึงบรรจงกระทืบเพดานค่าตัวนักเตะจนย่อยยับคาตีน ด้วยการยอมจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่า 197 ล้านให้ บาร์เซโลน่า เพราะนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้เล่นระดับ "ดาวดัง" ล้วนมีค่าตัวทะลุหลักหนึ่งร้อยล้านแบบไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็น่าเสียดายมิใช่น้อย
ย้อนกลับไปหลังจบฤดูกาล 2014-15 นั่นคือฤดูกาลแรกที่ แฮร์รี่ เคน ขึ้นชุดใหญ่ของคลับไก่แล้วแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ด้วยการกระทุ้ง 31 ดอก จากการลงเล่น 51 ในทุกรายการ (แบ่งเป็น 21 ประตูในพรีเมียร์ลีก) ตอนโน้น คอลัมนิสต์ลูกหนังและท่านผู้ชมทางบ้านที่มีอาการทางจิตเล็กน้อยอย่างผมเชียร์ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยกขันหมากไปสู่ขอดาวรุ่งตีนไฟผู้นี้มาร่วมทีมตามข่าว ด้วยค่าตัวที่น่าจะตกประมาณ 40-50 ล้านปอนด์ เพียงแต่มันคงเสี่ยงเกินไปที่จะทุ่มเงินมหาศาลขนาดนั้น เพื่อผู้เล่นที่อาจจัดอยู่ในประเภท "มหัศจรรย์ฤดูกาลเดียว" ก็เป็นได้
ที่แน่ๆ จากการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุด มันจับใจความได้ว่า
แฮร์รี่ เคน กำลังคิดถึงเรื่องการย้ายทีมจริงๆ เนื่องเพราะมันถึงเวลาที่ต้องคำนึงถึงความสำเร็จ หลังแสดงความจงรักภักดีมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว แถมเป็นช่วงอายุที่เหมาะแก่การย้ายทีมอย่างมีคุณค่า ขณะที่ต้นสังกัดอย่าง สเปอร์ส หากได้ข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธระดับนั้น มีหรือที่ประธานสโมสรอย่าง ดาเนี่ยล เลวี่ จะไม่ใจอ่อน
ทว่าถ้าเป็นได้ พวกเขาคงไม่อยากปล่อยให้ทีมในพรีเมียร์ลีกเหมือนกันสักเท่าไหร่
ฉะนั้น & ฉะนี้
จึงพอจะหาบทสรุปของเรื่องนี้ได้ 2 ข้อ
1. มันอาจเร็วเกินไปหน่อยที่ "พริ๊นซ์แฮร์รี่" จะทิ้งคลับไก่ไปเลย หลังจบซีซั่นนี้ เหตุเพราะ โชเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งคุมทีมได้ไม่ถึงปี ยังไม่ได้ใช้เงินสโมสรซื้อดาวเตะใหม่ที่ต้องการเข้ามาร่วมทีม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน เขาจึงน่าจะฝังหนอกอยู่ที่ลอนดอนตอนเหนือไปอีก 1 ฤดูกาลเป็นอย่างน้อย
2. ถ้าจำเป็นต้องขาย หรือถ้าถูกบีบให้ต้องขาย สเปอร์ส คงอยากปล่อยดาวยิงตีนพายุฝัดของตัวเองให้ทีมนอกพรีเมียร์ลีกอย่าง เรอัล มาดริด มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน
สรุปแล้วบรรดาเด็กผีก็คงทำได้แค่จินตนาการถึงในช่วงที่ฟุตบอลถูกระงับแบบไม่มีกำหนดไปก่อน
บอ.บู๋