สำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ นักเตะดาวรุ่งคือขุมกำลังแห่งอนาคตของ ลิเวอร์พูล และพร้อมที่จะให้โอกาสนักเตะเหล่านั้นเสมอ หากผู้เล่นในศูนย์เยาวชนมีศักยภาพ และพัฒนาตัวเอง จนพร้อมที่จะขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ เคอร์ติช โจนส์ ก็คือหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตเช่นกัน
เจ้าหนูโจนส์ วัย 19 ปี ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ รวมทั้งได้รับการจับตามองเป็นพิเศษโชว์ลีลาการยิงประตูสุดสวยในเกมเขี่ย เอฟเวอร์ตัน ตกรอบศึกเอฟเอ คัพ โดยนักเตะยังแสดงให้เห็นถึงความนิ่งด้วยการยิงจุดโทษในเกมคว่ำ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ในเกมคาราบาว คัพ ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ในเกมพรีเมียร์ลีก โจนส์ ได้ลงสนามเปิดตัวในแมตช์ปะทะ บอร์นมัธ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แน่นอนว่าด้วยฟอร์มของนักเตะ บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ต่างประทับใจ แต่ด้วยการที่ที่มอุดมไปด้วยแข้งชั้นนำมากมาย ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ โจนส์ จะสอดแทรกเข้ามาอยู่ในทีมชุดใหญ่แบบถาวร
อย่างไรก็ตาม บรรดาทีมสตาฟฟ์โค้ช "เดอะ เร้ดส์" มองว่า โจนส์ สมควรที่จะอยู่รอโอกาสกับ ลิเวอร์พูล ต่อไปมากกว่าจะถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัว แน่นอนว่านี่คือแนวคิดที่ถูกต้อง เพราะ ลิเวอร์พูล สามารถส่งเขาลงสนามในเกมฟุตบอลถ้วยในประเทศได้ และอาจจะได้รับโอกาสมากขึ้นในเกมลีก รวมทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ที่สำญสโมสร, สตาฟฟ์โค้ช และ คล็อปป์ มองในทิศทางเดียวกันว่า การที่ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะพัฒนาศักยภาพของตัวเองมากขึ้นเมื่อได้ลงฝึกซ้อมร่วมกับบรรดานักเตะชั้นยอดในทีมชุดใหญ่
กระนั้นการที่ โจนส์ ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องทำให้หลายคนรู้สึกว่านักเตะอาจจะสูญเสียพรสวรรค์ไป และน่าจะย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมอื่นเหมือนกรณีของ ริอาน บรูว์สเตอร์ เพื่อโอกาสในการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาตัวเอง
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ เลือกที่จะเก็บนักเตะเอาไว้ปั้นเองมากกว่า เพราะเขามองเห็นเพชรเม็ดงามรายนี้กำลังได้รับการเจียระไนเป็นอย่างดีจากมันสมองของนายใหญ่ชาวเยอรมัน ลองคิดดูก็แล้วกันว่า โจนส์ เป็นที่รักของ คล็อปป์ มากขนาดไหน เพราะเขาได้รับโอกาสเป็นกัปตันทีมในเกมชนะ ชรูว์สบิวรี่ ศึกฟุตบอลถ้วยน็อกเอต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
คล็อปป์ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัว โจนส์ มาตลอด และจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะรู้สึกแบบนั้น เพราะนักเตะแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมมาตลอดโดยเฉพาะในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน "นี่คือนักเตะที่น่าเหลือเชื่อ มีความมั่นใจมากๆ มุ่งมั่นอยากที่จะเล่นทีมชุดใหญ่ เขามีก้าวที่ยิ่งใหญ่รออยู่ เขาจะเป็นนักเตะลิเวอร์พูล มันเกิดขึ้นแน่นอน"
ไม่ใช่แค่ โจนส์ เท่านั้นที่มีโอกาสขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ เพราะทั้ง ฮาร์วี่ย์ เอลเล็ตต์, นิโก้ วิลเลี่ยมส์ , นาธาเนียล ฟิลิปส์, เปโดร ชิริเบย่า และ บรูว์สเตอร์ (ส่งยืมตัวกับ สวอนซี ซิตี้) ก็สามารถขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมในอนาคตเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก อดัม ลัลลาน่า ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ เช่นเดียวกับ เซอร์ดาน ชากีรี่ จอมทัพทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องจากเตรียมเก็บเสื้อผ้าออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ดังนั้น โจนส์ และเหล่าผองเพื่อน "หงส์ละอ่อน" จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการทดแทนการขาดหายไปของรุ่นพี่
ดาวเตะวัย 19 ปีซึ่งลงเล่นฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่นับตั้งแต่ต้นปี 2018 เปิดใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการฟูมฟักครั้งสำคัญที่จะทำให้ตนเติบโตขึ้น "ผมเข้าใจเกมมากขึ้น ตอนที่พาบอลด้วยความเร็ว ตอนที่เลี้ยงบอล และการหาพื้นที่เล่น ทั้งหมดนี้มันดีกว่าตอนที่ผมซ้อมกับทีมยู-18 และยู-23"
"ผมรู้ว่าผมต้องหาพื้นที่ว่างเพื่อจะได้มีเวลาเยอะๆ ในการจับบอล เพราะนักเตะที่ดี, ฉลาด และรวดเร็ว จะเข้ามากดดันคุณ ผมคิดว่าเกมโดยรวมของผมมันพัฒนาขึ้นากการที่ได้ซ้อมกับนักเตะชุดใหญ่ และทุกๆ คนก็ช่วยผมได้มาก รวมทั้งผู้จัดการทีมด้วย" โจนส์ ระบุ
สำหรับอนาคตของ โจนส์ กับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกเลยว่าสดใสมากๆ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ คล็อปป์ เลือกที่จะปั้นเด็กคนนี้เอง มากกว่าที่จะปล่อยไปเล่นแบบยืมตัว
