โรนัลโด้ เขียนจดหมายถึงเหล่าสาวก เรอัล บายาโดลิด เพื่อให้กำลังใจพวกเขาในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยังยกตัวอย่างด้วยว่าตนก็เคยเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากสุดๆ จากการที่เจ็บเข่าอย่างรุนแรง แต่ก็ยังผ่านพ้นมันมาได้
โรนัลโด้ ตำนานกองหน้าชาวบราซิเลียน เขียนจดหมายให้กำลังใจเหล่าแฟนบอล เรอัล บายาโดลิด สโมสรในศึก ลา ลีกา สเปน ที่เขาเป็นเจ้าของ
สเปนถือเป็นหนึ่งในชาติที่โดนเชื้อไวรัสโควิด-19 เล่นงานอย่างหนัก จนถึงขนาดมีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ 226,629 คน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ 23,190 ราย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้เกมฟุตบอลในแดนกระทิงดุถูกสั่งพักการแข่งขันไปด้วย
โรนัลโด้ เผยว่า "เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ผมครุ่นคิดว่าจะติดต่อกับพวกคุณยังไงดีในช่วงเวลาอันซับซ้อนที่แต่ละคนต้องกักตัวอยู่ในบ้าน และเต็มไปด้วยข่าวร้ายมากมายก่ายกอง ท้ายที่สุดแล้วผมก็ตัดสินใจส่งจดหมายนี้มาให้พวกคุณ และผมหวังว่าพวกคุณจะสัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยจากข้อความที่ผมเขียนลงไป ผมเป็นห่วงพวกคุณจากที่บ้านของผม ครอบครัวของผมเป็นห่วงครอบครัวของพวกคุณ"
"จริงอยู่ว่าเราต้องอยู่ห่างกันในเรื่องระยะทาง แต่ผมเชื่อว่ามันไม่มีช่วงเวลาไหนอีกแล้วที่เราจะใกล้ชิดกันได้มากไปกว่าในตอนนี้ ในตอนนี้ความเอาใจใส่เป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราช่วยกันและกันด้วยการมีความสามัคคีกันมากขึ้นจากการทำหลายต่อหลายอย่าง"
"ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อขอบคุณพวกคุณที่ยอมอยู่ที่บ้าน ตอนนี้พวกคุณอาจจะอยู่ที่บ้านมากกว่าแต่ก่อน และเปลี่ยนบ้านให้เป็นสถานที่ที่วิเศษ นอกจากนี้ ผมก็อยากขอบคุณพวกคุณที่เปลี่ยนทุกๆ ช่วงเวลาให้เป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับครอบครัวของคุณเองด้วย"
"ขณะเดียวกัน ผมก็อยากจะขอบคุณพวกคุณสำหรับความอดทน, ความระมัดระวัง และความคิดในแง่บวกของพวกคุณ แม้ว่าจะเจอกับความยากลำบากทั้งหมด, ความท้าทายต่างๆ และความสูญเสียที่เจอในช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างนี้ก็ตาม"
"ฟุตบอลได้สอนหลายอย่างให้ผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการก้าวข้ามเรื่องต่างๆ ให้ได้ ตอนที่ผมเจ็บหัวเข่าครั้งแรกและเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดน่ะ มันมีคนบอกกันว่าผมจะไม่มีวันกลับมาเล่นได้อีกแล้ว พวกเขาบอกว่าผมจะกลับมาเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าชีวิตของผมมันโดนพรากไปจากผม ช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นช่วงที่ขีดจำกัดของผมโดนทดสอบ และผมก็สู้อย่างหนักเพื่อเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น พร้อมกับแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมสามารถทำในสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดได้"
"มันเป็นช่วงเวลาการบำบัด 3 ปีที่ยากลำบาก ผมได้รับแรงกระตุ้นจากความต้องการที่จะได้สัมผัสกับทุกสิ่งที่ผมจะสัมผัสได้จากในสนาม และจากความรู้สึกที่ได้รับจากการได้สัมผัสบอลด้วยเท้าของตัวเองเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพการเล่นของผมก็มาถึง นั่นคือการได้เล่นฟุตบอลโลกกับ บราซิล ในปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่น (และเกาหลีใต้) ผมทำได้ 2 ประตูในเกมที่เจอกับ เยอรมนี สำหรับประเทศของผมแล้วนั่นเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 แต่สำหรับผมเองแล้วนั้น มันเป็นการอุทิศตนเพื่อการกลับมาสู่โลกฟุตบอล"
"ผมมั่นใจว่าเมื่อพวกคุณมองย้อนกลับมาที่ช่วงเวลานี้แล้วนั้น พวกคุณก็จะจดจำได้ว่าพวกคุณลุกขึ้นสู้กี่ครั้งจากการสู้ทั้งหมดของคุณ และคุณก้าวข้ามมันมาได้กี่ครั้งตลอดชีวิตของคุณ คุณจะจำได้ว่าคุณเคยทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ และมันก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณก้าวไปถึงจุดๆ หนึ่งในอนาคตได้"
"ถ้าคุณได้รับจดหมายฉบับนี้ มันก็เป็นเพราะว่า ปูเซล่า (หมายถึง บายาโดลิด) เป็นหนึ่งในการเลือกของผม และมันก็ถือว่าผมได้รับเลือกเหมือนกัน ผมมีอารมณ์ร่วมกับทีมมากๆ ผมเองก็ตั้งตารอที่จะได้กลับไปยังบ้านของเราเหมือนกับพวกคุณ พอผมปิดตาลงแล้วน่ะ ผมก็จะนึกถึง ซอร์รีย่า (สนามเหย้าของ บายาโดลิด) ที่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมเต็มสนาม มันเป็นอารมณ์ร่วมที่ทำให้ผมซาบซึ้ง"
"ในเรื่องนอกสนามนั้น ผมยังมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะทุกๆ อุปสรรคให้ได้ และส่วนตัวแล้วผมก็มาสู่ครอบครัวนี้ตามพวกคุณ ผมขอบคุณพวกคุณที่อยู่ร่วมกับผม แข็งแกร่งเข้าไว้นะ เราจะสู้ไปด้วยกัน และเราจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว"