สาวก "เดอะ ค็อป" คงรู้สึกตกตะลึงกันเป็นทิวแถวที่เห็น ลิเวอร์พูล ทีมรักจัดการคว้าตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมแกร่งแบบชุดใหญ่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลายคนรู้สึกหงุดหงิดกับการที่ "หงส์แดง" ไม่มีความเคลื่อนไหวในการซื้อนักเตะในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้
หลังจากที่คว้าตัว คอสตาส ซิมิคาส แบ็กซ้ายชาวกรีกมาจาก โอลิมเปียกอส ช่วงต้นเดือนกันยายนี้ "เดอะ เร้ดส์" ก็ไม่ค่อยมีการขยับซื้อนักเตะเพิ่ม มีแค่ข่าวว่าสนใจ หรือกำลังเล็งคนโน้นคนนี้ แต่บทสรุปสุดท้ายก็ไม่ได้จริงจังกับผู้เล่นเหล่านั้นมากนัก
อย่างไรก็ตามช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้แฟนบอลตาต้องลุกวาวเมื่อจัดการคว้าตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางเชิงสูงมาจาก "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เมื่อวันศุกร์จากนั้นแค่ 1 วันพวกเขาก็ประกาศเซ็นสัญญากับ ดีโอโก้ โชต้า ปีกชาวโปรตุกีส ซึ่งนั่นทำให้ขุมกำลังในเชิงลึกของทีมแข็งแกร่งขึ้นทันตาเห็น
กระนั้นในยุคที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างต่อเนื่องการซื้ออย่างเดียวอาจจะสร้างปัญหาทางการเงินในอนาคต ฉะนั้น ลิเวอร์พูล จึงต้องมีการขายเพื่อรักษาสมดุลทางบัญชีเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ "หงส์แดง" จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการผ่องถ่ายนักเตะที่ไม่ใช้งานเพื่อนำเงินมาสร้างบาลานซ์ให้กับบัญชี และเอาไว้หากต้องใช้ในการสร้างทีมระยะยาว
1. การปล่อยนักเตะบางคนที่ไม่ใช้งาน
มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเห็นนักเตะหลายคนโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ มากกว่าจำนวนพ่อค้าแข้งที่จะย้ายเข้ามาในช่วงก่อนตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ และแน่นอนว่า "เดอะ เร้ดส์" คงจำเป็นต้องตัดสินใจในการปล่อยผู้เล่นออกไปหลายรายในช่วงโค้งสุดท้ายนี้
เริ่มจากรายงานที่ระบุว่า แฮร์รี่ วิลสัน ได้รับความสนใจจาก เบิร์นลี่ย์ โดย ฌอน ไดซ์ กุนซือของทีมมีความชื่นชอบในสไตล์การเล่นของนักเตะรายนี้มากๆ ขณะเดียวกับ ดาวเตะทีมชาติเวลส์ ก็ใช้เวลาเมื่อซีซั่นที่แล้วกับการถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ บอร์นมัธ ซึ่งล่วงตกชั้นไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขารู้สึกได้ว่าแทบไม่มีอนาคตกับต้นสังกัด
อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" คงหวังจะได้ค่าตัวที่เหมาะสมจึงจะปล่อยนักเตะออกไป ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ยังต้องตัดสินใจปล่อยนักเตะรายอื่นๆ ออกไปอีกหลายคนโดยหนึ่งในนั้นก็มีทั้ง ดิว็อค โอริกี้, ริอาน บรูว์สเตอร์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ แต่กระนั้นทีมคงคาดหวังให้สโมสรต่างๆ ยื่นข้อเสนอที่สมน้ำสมเนื้อก่อนที่ตลาดพ่อค้าแข้งจะปิดในวันที่ 5 ตุลาคมนี้
แน่นอนว่าการขายนักเตะที่ไม่ได้ใช้งานออกไปก็เพื่อรักษาสมดุลทางการเงินให้กับทัพ "เดอะ เร้ดส์" เพราะหากมัวแต่จะทุ่มเงินซื้ออย่างเดียว ในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบกับสโมสรก็เป็นได้ ฉะนั้นในเมื่อใช้เงินในการเสริมทัพแล้ว ก็ต้องหาเงินมาเติมเต็มคลังด้วย
2. ค้นหาเซนเตอร์แบ็กคนที่ 4 มาเป็นกำลังเสริม
โอเค ไม่มีใครปฏิเสธฟอร์มการเล่นของ ฟาบินโญ่ ที่ลงทำหน้าที่เป็นเซนเตอร์แบ็กจำเป็นในแมตช์บุกชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 2-0 เกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แต่ยังไงซะนี่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของนักเตะ ฉะนั้น "หงส์แดง" จึงต้องควานหาพ่อค้าแข้งที่เป็นกองหลังแท้ๆ มาร่วมทีม
ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย เดยัน ลอฟเรน ไปเล่นกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ ทำให้ทีมเหลือเซนเตอร์แบ็กระดับอาชีพแท้ๆ แค่ 3 คนเท่านั้นได้แก่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โฌแอล มาติป และ โจ โกเมซ ส่วนดาวรุ่งก็มีแค่ รีส วิลเลี่ยมส์ กับ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้
อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" ยังคงมองหาผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กแท้ๆ มาร่วมทีม แม้ สตาร์ดังชาวบราซิเลียน ซึ่งเล่นตำแหน่งกองกลางเป็นหลัก จะทำผลงานได้ดีในการสวมบทเซนเตอร์แบ็กจำเป็น ด้วยการไล่ประกบ ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกชาวเยอรมัน จนอยู่หมัดก็ตาม
กระนั้น คล็อปป์ ยังมองว่าการหาเซนเตอร์แบ็กคนที่ 4 ยังมีความสำคัญเมื่อมองจากโปรแกรมที่ทีมจะต้องลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาลนี้ เพราะแม้ ฟาบินโญ่ จะเป็นตัวเลือกที่ดีในยามฉุกเฉิน แต่หากเกิดอาเพศกองกลางและกองหลังของทีมดันได้รับบาดเจ็บพร้อมกัน มันจะยุ่งมากๆ
เพราะไม่รู้ว่าจะใช้งาน ฟาบินโญ่ ตำแหน่งไหน และกรณีนี้อาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักในการไม่มีปราการหลังตัวกลางอาชีพลงเล่น และมีสิทธิ์ทำให้ฟอร์มเป๋เอาได้ง่ายๆ
แต่สิ่งสำคัญการจะหาเซนเตอร์แบ็กชั้นดีที่สามารถลงเล่นให้กับ "หงส์แดง" ได้ทันทีในช่วงโค้งสุดท้ายตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์นี้ มันค่อนข้างยากลำบากมากๆ และงานนี้ คล็อปป์ อาจจำเป็นต้องใช้งานนักเตะดาวรุ่งลงเล่นในบางเกมไปก่อน
3. เพิ่มเงินทุนเพื่อนำไปใช้ในการเสริมทัพ
แผนการนี้ดูเหมือนจะเป็นออปชั่นเสริม แต่การที่ ลิเวอร์พูล ควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อ ติอาโก้ และ โชต้า ออกไป แน่นอนว่าพวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาเงินกลับคืนมา ก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้จะปิดตัวอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าเราจะไม่รู้ข้อมูลวงในเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านการเงินของสโมสร แต่การขายนักเตะให้ได้ก่อนปิดตลาดก็จะทำให้พวกเขามีงบมากขึ้นเมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ปีหน้าซึ่งเป็นช่วงที่อาจจะจำเป็นต้องมีการดำเนินการตามแผนในระยะยาวมากขึ้น
ขณะเดียวกันขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล ในปัจจุบันมีนักเตะบางคนที่สภาพร่างกายอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว ฉะนั้นแผนการในการเสริมทัพในครั้งต่อไปอาจจะต้องพบประสบกับค่าตัวนักเตะที่สนใจแพงมาก ด้วยเหตุนี้การขายนักเตะช่วงเดดไลน์ตลาดพ่อค้าแข้งเพื่อนำมาเป็นทุนสำรองในการเสริมทัพครั้งต่อไปจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
ทอมเม้ง