อาร์เซน่อล คงใช้คำอื่นไม่ได้นอกจากคำว่า “วิกฤติ” หลังจากล่าสุดบุกพ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ส่งผลให้ทัพ “ปืนใหญ่” ควานหาชัยชนะในพรีเมียร์ลีกไม่เจอเป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันแล้ว และแน่นอนว่ามันร้อนมาถึงเก้าอี้กุนซือของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วย เราหยิบประเด็นที่เกิดขึ้นในเกมนี้มาวิเคราะห์กัน
1.สามแนวรุกสุดทื่อ
ปกติแฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” ก็กุมขมับกับเกมรุกของทีมในช่วง 6 นัดที่ผ่านมาอยู่แล้ว เกมนี้พวกเขายังขาด ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง ที่มีอาการบาดเจ็บอีกต่างหากทำให้สามแนวรุกด้านหน้า อาร์เตต้าตัดสินใจใช้ วิลเลี่ยน ทางฝั่งซ้าย, นิโกล่าส์ เปเป้ ทางฝั่งขวา และกองหน้าตัวเป้าเป็น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือสามนักเตะตัวรุกไม่สามารถเก็บบอลแดนหน้าได้เลย ไล่มาตั้งแต่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่แฟนปืนมักจะมีข้อกังขาว่าเป็นลูกรักของ อาร์เตต้า โดยเจ้าตัวสัมผัสบอลน้อยกว่า 30 ครั้งตลอด 76 นาทีที่ลงเล่นแถมเมื่อมีโอกาสง้างยิงประตูก็ทำได้น่าผิดหวังอีกต่างหาก
ขณะที่ วิลเลี่ยน ซึ่งแทนที่ของ โอบาเมย็อง ทางฝั่งซ้ายนั้นแทบจะไม่มีอิมแพ็คกับเกมเลย แม้ว่าเขาจะสัมผัสบอลมากกว่าอีกสองแนวรุกและยังส่งบอลแม่นยำถึง 97% แต่สิ่งที่แฟนบอลเห็นคือเจ้าตัวจ่ายบอลเพลย์เซฟมากกว่าที่จะเสี่ยงแทงบอลสร้างเกมรุก นอกจากนี้เจ้าตัวมีโอกาสยิงแค่ครั้งเดียว ไม่มีเลี้ยงผ่านคู่แข่ง ไม่มีครอสบอลสำเร็จ ไม่มีแท็กเกิ้ล ไม่มีอะไรเลย...
ด้าน นิโกล่าส์ เปเป้ แม้จะเป็นคนยิงจุดโทษแต่ทั้งเกมเขาทำผลงานน่าผิดหวัง ไม่สามารถสร้างโอกาสทำประตูเลยและเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้เลยสักครั้ง ไม่แปลกใจที่เราจะได้เห็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ลงสนามมาแทนในช่วง 20 นาทีท้าย
2.เรื่องดียังพอมี
แม้จะมีเรื่องให้น่าหนักใจมากมายสำหรับอาร์ืเซน่อล แต่เกมนี้ยังพอมีเรื่องดีหลงเหลืออยู่บ้างนั่นคือฟอร์มของ คีแรน เทียร์นี่ย์ โดยแบ็กชาวสกอตติชเซ็นสัญญามาด้วยราคาสุดถูกแต่เขาพลาดการเล่นเกือบทั้งซีซั่นที่แล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ทว่าซีซั่นนี้เขากลับมายึด 11 ตัวจริงและผลงานได้ดีหลายนัดแม้ทีมจะเก็บผลการแข่งขันไม่ได้ก็ตาม
เทียร์นี่ย์ สร้างโอกาสทำประตูมากที่สุดในทีม (4 ครั้ง), ครอสบอลมากที่สุดในทีม (7 ครั้ง) และยังเคลียร์บอล 2 ครั้งซึ่งหนึ่งในนั้นมีจังหวะสำคัญคือการเคลียร์บอลตัดหน้า อิโวบี้ ที่กำลังจะได้ยิงจ่อๆหน้าประตู เขาดูจะเป็นความหวังสูงสุดของทีมในการสร้างโอกาสทำประตูโดยเฉพาะจากการครอสด้านข้าง ดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของแนวรุกที่ต้องปิดจ็อบลูกครอสเหล่านี้ให้ได้ 4 ครั้งที่เขาสร้างโอกาสขึ้นอย่างน้อยมันควรจะเป็นหนึ่งประตูด้วยซำ้
3.ทอฟฟี่เข้ารูปเข้ารอย
ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มสุดยอดจนผงาดเป็นจ่าฝูงอยู่หลายสัปดาห์ พวกเขาคว้าชัย 4 นัดแรกของซีซั่นและยังเสมอกับ ลิเวอร์พูล ได้อีกด้วย ทว่าหลังจากนั้น 6 นัดพวกเขาเอาชนะได้แค่นัดเดียวแถมยังพ่ายแพ้ไปถึง 4 นัด
มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้พวกเขาฟอร์มแย่ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดง หรือ อาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก จนกระทั่งนัดที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กลับมาฟอร์มดีอีกครั้งคือเกมเปิดเฉือนชนะ เชลซี
โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน ยังคงเป็นกองหน้าที่ทำประตูต่อเนื่อง แต่นักเตะที่กลายมาเป็นส่วนสำคัญไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือมิดฟิลด์วัย 31 ปีอย่าง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน โดยช่วงต้นฤดูกาลเขาตกเป็นตัวสำรองอยู่บ่อยครั้งหลังจากการมาของนักเตะใหม่หลายคนบวกกับฟอร์มจากฤดูกาลที่แล้วซึ่งที่ไม่เปรี้ยงเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามเกมนี้เป็นเกมที่ 3 ในรอบ 7 วันที่เขาออกสตาร์ทตัวจริงซึ่ง เอฟเวอร์ตัน เก็บชัยในแมตช์สำคัญทั้ง เชลซี, เลสเตอร์ และ อาร์เซน่อล โดยเจ้าตัวเป็นคนยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ เชลซี รวมถึงทำแอสซิสต์ในเกมชนะ อาร์เซน่อล ด้วย จากฟอร์มแบบนี้เลยทำให้การบาดเจ็บของ ฮาเมส โรดริเกซ ไม่เสียหายกับทีมมากนัก
4.สถิติแย่ผุดมาอีก
ช่วงนี้สถิติที่แฟน “ปืนใหญ่” ไม่อยากจดจำเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ทีมรักของพวกเขามีแค่ 14 แต้มจากการแข่ง 14 เกม (ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 8) ถือเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1974-75 เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจคือนับตั้งแต่ อาร์เตต้า มารับงานกุมบังเหียน อาร์เซน่อล ทีมตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง 10 นัดในลีกตอนหมดครึ่งแรก ไม่มีแมตช์ไหนที่พลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้เลย (เสมอ 3 แพ้ 7)
5.พี่ต้าเวลาหมด?
มิเกล อาร์เตต้า คุมทีมอาร์เซน่อลมาครบหนึ่งปีเป็นที่เรียบร้อย แต่ตอนนี้เขามีโอกาสสูงมากที่จะกระเด็นตกเก้าอี้กุนซือหลังจากไร้ชัยถึง 7 นัดติดต่อกัน ซีซั่นนี้เขาพาทีมแพ้ไปแล้ว 8 นัดแล้วซึ่งมีเพียงแค่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือบ๊วยของตารางที่แพ้มากกว่า นอกจากนี้ 6 นัดหลังสุดลูกทีมของอาร์เตต้าเก็บแค่ 2 แต้มและยิงแค่ 2 ประตูเท่านั้น เรียกได้ว่าอาการโคม่าเลยทีเดียว
น่าสนใจว่าหลังเกมพ่ายเอฟเวอร์ตัน บอร์ดบริหาร “ปืนใหญ่” จะขยับตัวตามคำเรียกร้องของแฟนบอลหรือไม่ โดยตอนนี้มีชื่อกุนซือที่ว่างงานอย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เป็นตัวเต็งอยู่ อย่างไรก็ตามถ้าหากบอร์ดยังไม่ขยับ อาร์เตต้า จะมีเกมสำคัญสองนัดในการชี้ชะตาตำแหน่งกุนซือ โดยนัดแรก อาร์เซน่อล จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ซิตี้ ในศึกคาราบาว คัพ วันอังคารนี้ ส่วนอีกหนึ่งคือเกมสุดสัปดาห์หน้าในการทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์กับ เชลซี
“Zvo”