แม้ว่า เจสซี่ มาร์ช กุนซือชาวสหรัฐฯ จะเข้ามาปลุก ลีดส์ กลับมาดูดีขึ้นบุกมากกว่าแต่จบไม่คม ก่อนสุดท้ายจะมาเจอทีเด็ดของ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เป็นฮีโร่กดประตูชัยพา เลสเตอร์ เอาชนะ 1-0 คว้าชัย 2 นัดรวด ส่วนทัพ ยูงทอง แพ้ 5 นัดรวดยังรั้งที่ 16 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2565 ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ระหว่าง เลสเตอรี์ ซิตี้ ทีมอันดับ 12 พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 16 ของตาราง
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาทีม สุนัขจิ้งจอก เพิ่งกลับมาคว้าชัยในลีก โดยเกมนี้แนวรุกส่ง เจมี่ วาร์ดี้ กลับมาออสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมี ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ทำเกมริมเส้นสองฝั่ง
ด้าน ลีดส์ จะได้ เจสซี่ มาร์ช กุนซือคนใหม่ ประเดิมคุมทีมนัดแรกแทน มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ที่โดนไล่ออกไปหลังจากแพ้ สเปอร์ส 0-4 ในเกมล่าสุด โดยเกมนี้ มาร์ช ยังยึดแกนหลักชุดเดิม นำโดย ราฟินญ่า, โรดรีโก้, แจ็ค แฮร์ริสัน และ ดาเนี่ยล เจมส์ ผนึกกำลังในแนวรุก
ครึ่งแรกเปิ ดฉากมาได้เพียง 2 นาที ลีดส์ เกือบขึ้นนำเร็ว แจ็ค แฮร์ริสัน แทงบอลทะลุช่องให้ แดเนียล เจมส์ หลุดเข้าเขตโทษไปยิงด้วยขวาไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกหลังไปหวุดหวิด
จากนั้น นาทีถัดมา เลสเตอร์ โต้กลับมาทันควัน และมาได้โอกาสลุ้นจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ แต่ไปตรงตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์
เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาทีที่ 8 แดเนียล เจมส์ ลากบอลขึ้นมาจากกลางสนาม แล้วแทงไปฝั่งซ้ายให้ แจ็ค แฮร์ริสัน หลุดมายิงด้วยซ้ายในเขตโทษไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ใช้ขาสกัดทิ้งออกมา
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกทั้งสองทีมสู้กันอย่างคู่คี่สูสี แม้ว่า เลสเตอร์ จะครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ยังเจาะแนวรับ ลีดส์ เข้าไปทำประตูไม่ได้
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 40 ลีดส์ หวิดขึ้นนำอีกหนจากจังหวะที่ แจ็ค แฮร์ริสัน เปิดบอลเข้าเขตโทษไปแฉลบแนวรับ เลสเตอร์ ก่อนจะมาเข้าทางปืน จูเนียร์ ฟิร์โป้ ตั้งป้อมกดด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลไปติดบล็อก ชักลาร์ โซยุนชู
นาที 44 เลสเตอร์ ได้โอกาสทองจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเป็น แดเนียล อามาร์ตีย์ ขึ้นโหม่งคนเดียวเน้นๆบอลไปตรงตัว เมสลิเย่ร์ รับกระฉอกก่อนจะคว้าเข้าซอง
หลังจากนั้นทั้งสองทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 57 ลีดส์ ที่เปิดฉากบุกใสต่อเนื่องมาได้ลุ้นจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ แฮร์ริสัน บอลไปแฉลบ อมาตีย์ หลุดกรอบออกไปนิดเดียว
จังหวะถัดมานาที 58 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา แล้วเป็น โรดรีโก้ ที่โฉบมาโหม่งเน้นๆที่เสาแรก ชไมเคิ่ล ต้องปัดทิ้งออกไป
จากนั้น นาทีที่ 60 ลีดส์ พลาดขึ้นนำแบบเหลือเชื่อจากจังหวะที่ จูเนียร์ ฟีร์โป้ หลุดไปถึงสุดเส้น แล้วปาดเรียดมาที่หน้าปากประตูให้ ชาร์จจ่อๆ แต่ยังติดเซฟ ชไมเคิ่ล
รูปเกมในครึ่งหลัง เลสเตอร์ เป็นรองชัดเจน จนทำให้ ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจเปลี่ยนตัวทีเดียวสองคนรวดส่งทั้ง เคเลชี่ อิเฮนาโช่ และ อเดโมล่า ลุคแมน ลงมาเล่นแทน เจมี่ วาร์ดี้ และ ฮัมซ่า เชาว์ดรี้ ตามลำดับ
นาที 64 ราฟินญ่า กระชากมาทางฝั่งขวาแล้วจ่ายย้อนเข้าเขตโทษให้ โจ เกลฮาร์ดท ล็อกเข้าซ้ายแล้วซัดบอลไปแฉลบแนวรับ เลสเตอร์ หลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ ที่รูปเกมเป็นรองกลับมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ บาร์นส์ ทำชิ่งกับ อิเฮน่าโช่ ก่อนที่ปีกชาวอังกฤษจะหลุดไปแปเล่นทางส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป ในนาทีที่ 67
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ (4-3-3) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ฮัมซ่า เชาว์ดรี้, แดเนียล อามาร์ตีย์, ชักลาร์ โซยุนชู, ลุค โธมัส - ยูริ ตีเลมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ดิวส์บิวรี่ ฮอลล์ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
ลีดส์ (4-1-4-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, ปาสกาล สเตร๊าจ์ค, จูเนียร์ ฟิร์โป้ - โรบิน ค็อช - ราฟินญ่า, โรดรีโก้, มาเธอุสท์ คลิช, แจ็ค แฮร์ริสัน - แดเนียล เจมส์