เปิด 3 จุดที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ควรต้องทำหากยังหวังมีอนาคตกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังช่วงที่ผ่านมาหลุดเป็นตัวสำรองจนมีข่าวอาจมองหาต้นสังกัดใหม่
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกำลังพิจารณาอนาคตค้าแข้งของตัวเองกับ ปีศาจแดง ก่อนหมดสัญญาในปี 2023 เนื่องจากช่วงหลังไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงมากเท่าที่ควร
หัวหอกทีมชาติอังกฤษ วัย 24 ปี ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเพียง 2 จาก 11 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก รวมไปถึงได้แค่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมออกไปพ่าย แมนฯ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง 1-4 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย
แรชฟอร์ด อาจจะต้องพิจารณาหาต้นสังกัดใหม่ แต่ถ้าเขาอยากสู้ต่อและกลับมามีอนาคตที่สดใสในโรงละครแห่งความฝันล่ะก็ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ แนะนำว่าควรต้องทำ 3 ข้อดังนี้
1. ตัดสินใจให้เด็ดขาดกว่าเดิม
หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ แรชฟอร์ด มีฟอร์มการเล่นตกไปเยอะตั้งแต่หายเจ็บไหล่กลับมาคือ เรื่องการตัดสินใจในสนามที่ดูผิดพลาดไปหมด
หลายจังหวะที่ แรชฟอร์ด ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วตัดสินใจไม่แน่นอนว่าจะเลี้ยงต่อหรือเปิดบอลให้เพื่อนดี ส่งผลให้จังหวะการเล่นของทีมผิดพลาดไปด้วย
นอกจากนั้น แรชฟอร์ด ยังตัดสินใจไม่ดีเวลาได้โอกาสยิงประตูอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงควรต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติในการเล่น และมีความเชื่อมั่นในตัวเองให้มากขึ้น
2. ทำงานให้หนักขึ้น
เหตุผลอีกอย่างที่ แรชฟอร์ด หลุดเป็นตัวสำรองในช่วงหลังคือ ราล์ฟ รังนิก กุนซือ "ปีศาจแดง" ชื่นชอบความทุ่มเทและความขยันของเจ้าหนู แอนโธนี่ อีแลงก้า มากกว่า
เวลาที่ แรชฟอร์ด อยู่ในสนามนั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความขยันในการวิ่งไล่บอลและลงมาช่วยเกมรับมากเท่าที่ควร ดังนั้นถ้าอยากอยู่กับทีมต่อก็ควรต้องเปลี่ยนทัศนคติกับการเล่นในจุดนี้ด้วย
ขณะที่เจ้าหนู อีแลงก้า วัย 19 ปี เป็นนักเตะที่เล่นเพรสกดดันใส่คู่แข่งอย่างที่ รังนิก ต้องการ และพยายามไล่บอลเวลาเสียการครองบอล
3. รอกุนซือคนใหม่
รังนิก จะก้าวขึ้นไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กำลังสรรหากุนซือคนใหม่อยู่ในเวลานี้ โดยคาดว่า คงเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือไม่ก็ เอริก เทน ฮาก
แรชฟอร์ด จำเป็นต้องได้กุนซือที่ช่วยสอนเขาทั้งเรื่องการเล่นในสนามและการประพฤติตัวนอกสนาม เพื่อยกระดับให้ขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์อย่างที่ทุกคนเคยวาดฝันไว้
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปถึงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ ทางตัวของ แรชฟอร์ด เองก็ควรต้องพยายามยกระดับฟอร์มการเล่นด้วยตัวเองให้ได้ด้วยในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้