เปิด 5 เหตุผลที่ทำไม ลิเวอร์พูล ถึงยังต้องหวั่น แมนฯ ซิตี้ แม้ตอนนี้ทำคะแนนทิ้งห่าง "เรือใบสีฟ้า" ไปถึง 9 แต้มก็ตาม
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังบุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทำให้ยังนำโด่งเป็นจ่าฝูง มี 37 คะแนนจาก 13 นัด (ชนะ 12 เสมอ 1)
"หงส์แดง" ทำคะแนนทิ้ง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 8 คะแนน และทิ้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ไปแล้ว 9 แต้ม อย่างไรก็ตาม นี่คือ 5 เหตุผลทำไมถึงต้องหวั่นว่า "เรือใบสีฟ้า" จะกลับมาแซงเข้าป้ายอีกครั้ง
1. แมนฯ ซิตี้ เก๋าในการลุ้นแชมป์ ส่วน ลิเวอร์พูล กดดันรอมานาน 30 ปี
ลิเวอร์พูล ห่างเหินจากการคว้าแชมป์ลีกมาแล้วถึง 30 ปี และเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็น่าจะได้แชมป์ แต่สุดท้ายก็โดน แมนฯ ซิตี้ ปาดหน้าไปจนได้
เชื่อว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายๆ ของซีซั่น ทีมของ คล็อปป์ จะกลับมาเข้าสู่โหมดกดดันอีกครั้ง ไม่ว่าจะทำคะแนนห่างแค่ไหน และหากโชคเริ่มไม่เข้าข้างก็อาจเป๋เป็นได้
ขณะที่ทีมของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า พร้อมเป็นผู้ไล่ล่า และมีประสบการณ์ในการเอาตัวรอดเมื่อเข้าสู่ช่วงกดดัน ดังนั้นถ้า "หงส์แดง" ทำพลาดเปิดทางให้ล่ะก็ รับรองว่า "เรือใบสีฟ้า" ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยแน่
2. ธันวาคม เดือนหฤโหดของ ลิเวอร์พูล
คล็อปป์ จะต้องพา ลิเวอร์พูล ลงเตะถึง 10 เกมระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม ถึง 2 มกราคม เพราะมีโปรแกรมเล่นทั้ง พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, คาราบาว คัพ และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
"หงส์แดง" จะต้องเดินทางไปทำศึกสโมสรโลกที่ประเทศกาตาร์ ช่วงเดียวกับที่ต้องเจอ แอสตัน วิลล่า ในถ้วย คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
คล็อปป์ อาจต้องแบ่งทีมลงเตะทั้งสองรายการ โดยชุดใหญ่ไปเล่นที่ตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักเตะอาจมีอาการล้าจากการเดินทางไกลก่อนมาเจอโปรแกรมเตะอีกหลายนัด
3. เข้าสู่โปรแกรมหนักเดือนมกราคม
หาก ลิเวอร์พูล ผ่านเดือนธันวาคม มาได้ด้วยการมีคะแนนห่างทีมอันดับ 2 ถึง 9 แต้มเหมือนเดิมก็ใช่ว่าจะวางใจได้ เพราะเข้าสู่เดือนมกราคมจะต้องเจอโปรแกรมหนักๆ ทั้งนั้น
"หงส์แดง" จะต้องไปเยือนทั้ง เลสเตอร์, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เพิ่งได้ โชเซ่ มูรินโญ่ มากุมบังเหียน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส รวมทั้งเปิดบ้านต้อนรับ วูล์ฟส์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นเกมหนักทั้งนั้น ทำให้อาจปล่อยให้คะแนนหลุดไปบ้าง
ขณะที่โปรแกมช่วงท้ายฤดูกาล 4 นัด ลิเวอร์พูล จะเจอ เบิร์นลี่ย์, อาร์เซน่อล, เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ส่วน แมนฯ ซิตี้ พบ ไบรท์ตัน, บอร์นมัธ, วัตฟอร์ด และ นอริช ซึ่งดูแล้วของ "หงส์แดง" หนักกว่าแน่นอน
4. แมนฯ ซิตี้ อาจเสริมทัพเดือนมกราคม
แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสเสริมทัพโดยเฉพาะในแนวรับและกองกลางในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้
หาก "เรือใบสีฟ้า" ได้กองหลังชั้นยอดมาร่วมทีมก็จะเข้ามาอุดรอยรั่วได้อย่างที่ กวาร์ดิโอล่า ต้องการ และไม่เสียประตูง่ายๆ อีก ส่งผลให้เป็นผลดีต่อการลุ้นแชมป์
5. ลิเวอร์พูล ต้องระวังอย่าให้นักเตะสำคัญบาดเจ็บ
แนวรุกของ ลิเวอร์พูล จะอ่อนลงไปทันทีหาก 3 ประสานแดนหน้าทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไม่ได้ลงเล่นพร้อมกัน
แม้ ดิว็อค โอริกี้ จะพร้อมรับบทเป็นซูเปอร์ซับเหมือนที่เคยเป็นฮีโร่ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับ 3 ตัวจริงแล้วยังเป็นรองอยู่เยอะ
ขณะที่แนวรับถ้า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เกิดบาดเจ็บขึ้นมาล่ะก็ รับรองว่า บรรดา "เดอะ ค็อป" คงต้องเครียดแน่ และเมื่อดูขุมกำลังทั้งหมดแล้ว ลิเวอร์พูล ยังเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ที่มีตัวเลือกให้ใช้งานเยอะกว่า