มารูยาน เฟลไลนี่กองกลางหัวฟูตำหนิบอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เร่งรีบปลดโจเซ่ มูรินโญ่ไวเกินไปไม่ยอมให้เวลาสร้างทีมมากกว่านี้
ความพ่ายแพ้ต่อนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดในเกมล่าสุดทำให้"ปีศาจแดง"แพ้เป็นเกมที่ 3 ในลีกซีซั่นนี้ แถมยังทำให้ทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์อยู่ในอันดับ 12 ของตารางพรีเมียร์ลีกด้วย
เฟลไลนี่ย้ายออกจากทีมในเดือนมกราคมโดยไปอยู่กับชานตง ลู่เนิ่งในลีกจีน หลังเป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำทีมของโซลชาร์
กระนั้นเพื่อนๆของดาวเตะวัย 31 ปีหลายคนยังอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดและไม่เห็นด้วยที่บอร์ดของแมนฯ ยูไนเต็ดรีบปลดผู้จัดการทีมแต่ละคนไวเกินไป
"พวกเขาดึงโจเซ่ มูรินโญ่หนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดในโลกเข้ามา เขาอยากสร้างทีมและพวกเขาก็ปลดมูรินโญ่ การสร้างทีมในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปี"เฟลไลนี่ให้สัมภาษณ์
"ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะเอายังไงกับโซลชาร์ แต่สำหรับผมแล้วมันต้องใช้เวลาในการคว้าแชมป์และพัฒนาขึ้น มูรินโญ่ทำได้ยอดเยี่ยมมากในฤดูกาลแรก, เขาทำให้ทีมดีขึ้น, คว้าแชมป์"
"โอเคล่ะ ฤดูกาลที่สองเป็นเรื่องยากขึ้นหน่อย แต่เขาก็พยายามแล้วรู้มั้ยและทำเต็มที่เพื่อช่วยทีม จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจปลดมูรินโญ่"
เฟลไลนี่เป็นส่วนหนึ่งในทีมของมูรินโญ่ที่คว้าแชมป์ยูโรป้าลีกและลีก คัพ นอกจากนี้เขายังเคยคว้าแชมป์เอฟเอ คัพตอนที่หลุยส์ ฟาน ฮาลยังคุมทีมอยู่
เมื่อถามว่าสโมสรปลดมูรินโญ่ไวไปหรือไม่ เฟลไลนี่ตอบว่า "สำหรับผมแล้วก็ใช่ เพราะเมื่อผู้จัดการทีมแบบนั้นเข้ามาก็ต้องการนักเตะหลายคนเพื่อทำตามปรัชญาของเขา เขาอยากสร้างทีมของเขาและหลังจากผ่านไป 2 ปีหรือ 2 ปีครึ่ง พวกเขาตัดสินใจปลดมูรินโญ่เพราะผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง"
"พวกเขาดึงมอยส์เข้ามาแล้วก็ไม่ให้เวลา พวกเขาดึงฟาน ฮาลเข้ามา, ให้เวลาอยู่ 2 ปีและเราก็เริ่มแสดงบางสิ่งให้เห็น, เขาคว้าแชมป์ด้วย แต่หลังจากนั้นก็ปลดเพราะผมว่าพวกเขาอยากที่จะพบความสำเร็จไวๆ"
"กุนซือแบบฟาน ฮาลมีแท็คติกแข็งแกร่งและประสบการณ์สูง พวกเขายังปลดฟาล ฮาลออกจากตำแหน่ง"
"แต่เมื่อคุณอยากสร้างทีมมันก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่เปลี่ยนผู้จัดการทีมทุกๆ 2 ปี, ทุกๆปี ถ้าผู้จัดการทีมทำได้ไม่ดีใน 4 หรือ 5 เกม พวกเขาก็อยากปลดออกแล้ว"
"แมนฯ ยูไนเต็ดผ่านคว้ามาทุกอย่างตลอดหลายปีกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนอื่นจะเข้ามาและทำอย่างที่เฟอร์กูสันทำได้"
"พวกเขามีทีมและรากฐานอันแข็งแกร่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะเข้ามาและทำให้ได้แบบเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนของแมนฯ ยูไนเต็ดและแฟนบอลอยากให้เป็นแบบนั้น แต่ฟุตบอลเปลี่ยนไปแล้ว, ความคิดของนักเตะเปลี่ยนไป"
เฟลไลนี่ย้ายออกจากทีมในเดือนมกราคมโดยไปอยู่กับชานตง ลู่เนิ่งในลีกจีน หลังเป็นที่ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำทีมของโซลชาร์
กระนั้นเพื่อนๆของดาวเตะวัย 31 ปีหลายคนยังอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดและไม่เห็นด้วยที่บอร์ดของแมนฯ ยูไนเต็ดรีบปลดผู้จัดการทีมแต่ละคนไวเกินไป
"พวกเขาดึงโจเซ่ มูรินโญ่หนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดในโลกเข้ามา เขาอยากสร้างทีมและพวกเขาก็ปลดมูรินโญ่ การสร้างทีมในตอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปี"เฟลไลนี่ให้สัมภาษณ์
"ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะเอายังไงกับโซลชาร์ แต่สำหรับผมแล้วมันต้องใช้เวลาในการคว้าแชมป์และพัฒนาขึ้น มูรินโญ่ทำได้ยอดเยี่ยมมากในฤดูกาลแรก, เขาทำให้ทีมดีขึ้น, คว้าแชมป์"
"โอเคล่ะ ฤดูกาลที่สองเป็นเรื่องยากขึ้นหน่อย แต่เขาก็พยายามแล้วรู้มั้ยและทำเต็มที่เพื่อช่วยทีม จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจปลดมูรินโญ่"
เฟลไลนี่เป็นส่วนหนึ่งในทีมของมูรินโญ่ที่คว้าแชมป์ยูโรป้าลีกและลีก คัพ นอกจากนี้เขายังเคยคว้าแชมป์เอฟเอ คัพตอนที่หลุยส์ ฟาน ฮาลยังคุมทีมอยู่
เมื่อถามว่าสโมสรปลดมูรินโญ่ไวไปหรือไม่ เฟลไลนี่ตอบว่า "สำหรับผมแล้วก็ใช่ เพราะเมื่อผู้จัดการทีมแบบนั้นเข้ามาก็ต้องการนักเตะหลายคนเพื่อทำตามปรัชญาของเขา เขาอยากสร้างทีมของเขาและหลังจากผ่านไป 2 ปีหรือ 2 ปีครึ่ง พวกเขาตัดสินใจปลดมูรินโญ่เพราะผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง"
"พวกเขาดึงมอยส์เข้ามาแล้วก็ไม่ให้เวลา พวกเขาดึงฟาน ฮาลเข้ามา, ให้เวลาอยู่ 2 ปีและเราก็เริ่มแสดงบางสิ่งให้เห็น, เขาคว้าแชมป์ด้วย แต่หลังจากนั้นก็ปลดเพราะผมว่าพวกเขาอยากที่จะพบความสำเร็จไวๆ"
"กุนซือแบบฟาน ฮาลมีแท็คติกแข็งแกร่งและประสบการณ์สูง พวกเขายังปลดฟาล ฮาลออกจากตำแหน่ง"
"แต่เมื่อคุณอยากสร้างทีมมันก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่เปลี่ยนผู้จัดการทีมทุกๆ 2 ปี, ทุกๆปี ถ้าผู้จัดการทีมทำได้ไม่ดีใน 4 หรือ 5 เกม พวกเขาก็อยากปลดออกแล้ว"
"แมนฯ ยูไนเต็ดผ่านคว้ามาทุกอย่างตลอดหลายปีกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนอื่นจะเข้ามาและทำอย่างที่เฟอร์กูสันทำได้"
"พวกเขามีทีมและรากฐานอันแข็งแกร่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะเข้ามาและทำให้ได้แบบเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนของแมนฯ ยูไนเต็ดและแฟนบอลอยากให้เป็นแบบนั้น แต่ฟุตบอลเปลี่ยนไปแล้ว, ความคิดของนักเตะเปลี่ยนไป"
