เยอร์เก้น คล็อปป์กุนซือนอร์มอล วันของลิเวอร์พูลวิจารณ์ VAR คนเห็นทั้งโลกว่าดิว็อค โอริกี้โดนทำฟาวล์ก่อนเสียประตูแรกแอบเหน็บเจอทีมอุดบ่อยน่าเล่นดีกว่านี้
จังหวะปัญหาทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ประตูขึ้นนำเมื่อโอริกี้โดนวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟเตะเข้าที่ขาซ้ายจนล้มลงแต่กรรมการไม่เป่าแล้วมาร์คัส แรชฟอร์ดยิงประตูจากการสวนกลับเข้าไป
คล็อปป์พยายามโวยแหลกหลังจาก VAR ยืนยันว่าไม่มีการฟาวล์ในจังหวะนั้นแต่ไม่เป็นผลก่อนที่อดัม ลัลลาน่ามายิงประตูตีเสมอนาทีที่ 85
โค้ชชาวเยอรมันกล่าวว่า"เราดีพอที่จะได้มาแต้มหนึ่งนะ เราปล่อยให้ยูไนเต็ดมีโอกาสเล่นในแบบที่พวกเขาต้องการเล่นด้วยแนวรับ 5 คน"
"พวกเขาทำงานหนัก ทิศทางการเล่นของเราไม่ดีพอ เรารู้สึกกดดันตอนที่เราไม่ได้กดดันอะไรเลยและน่าจะเปลี่ยนบอลเข้าในได้ในบางโอกาส"
"ประตูแรกนั้นผมคิดว่าทุกคนเห็นด้วยว่าเป็นการฟาวล์ แต่ VAR บอกว่ามันไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นการฟาวล์ สถานการณ์มันคือแบบนี้"
"เราไม่แพ้แต่มันเป็นการฟาวล์แน่ๆ มีการปะทะกันอย่างชัดเจนและดิว็อค โอริกี้ร่วงลงไป พวกเขาเล่นต่อแล้วก็สวนกลับ ใช่เลย มันมีการปะทะ ผมแน่ใจว่าพวกเขาบอกแบบนี้แต่มันไม่ใช่การฟาวล์แบบจะแจ้งงั้นเหรอ? ไม่เวิร์คเลยนะ มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น"
"จากนั้นเราก็ยิงได้แต่ไม่เป็นประตู ผมยังไม่ได้กลับไปดูแต่บางทีมันอาจเป็นแฮนด์บอล แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เข้าข้างเราเลย"
"เราเปลี่ยนรูปแบบการยืนตำแหน่งเล็กน้อยแล้วก็มีโอกาส จากนั้นเรายิงประตูได้แล้วก็พยายามเล่นไปตามเกม สนามเงียบกริบเลยนะบางทีทุกคนอาจคิดว่าลิเวอร์พูลอาจยิงได้อีกแต่เราก็เอามาแต้มหนึ่งแล้วเดินหน้ากันต่อไป"
"เรามักเจอกับกำแพงเสมอ เราจำเป็นต้องทำให้ดีขึ้นแต่มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ผมไม่คิดว่าแมน ยูไนเต็ดสามารถเล่นแบบนี้ได้หากทีมอื่นไม่ได้ครองบอลมากเท่านี้"
"เราเจอกับทีมที่เล่นแบบนี้บ่อยมากเลยนะ บางทีเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่หนึ่งแต้มก็โอเคแล้วนะ เราขอก้าวกันต่อไป"
"โมเมนตั้มอยู่ที่ยูไนเต็ดในครึ่งแรกเพราะพวกเขาลงไปเล่นเกมรับพวกเราแบบเพียวๆ เราควรทำได้ดีกว่านี้แต่แน่นอนว่าการเล่นแบบนี้มันง่ายกว่าที่จะผ่านบอลผ่านไลน์ไป ในครึ่งหลังเราเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและมันก็ดีขึ้น"
"มันแค่หนึ่งคะแนน ตั้งแต่ผมมาอังกฤษ แมน ยูไนเต็ดเล่นแบบนี้เสมอ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้และเราจะดีกว่านี้ในอนาคต แต่ตอนนี้เราต้องยอมรับมัน"
"ทุกคนพยายามบิ้วด์ให้มันใหญ่โตแต่มีแค่ทีมเดียวที่ต้องตั้งรับและอีกทีมต้องสร้างเกม วันนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ว่าเราชนะบางสิ่ง ก็แค่แต้มเดียว"
คล็อปป์พยายามโวยแหลกหลังจาก VAR ยืนยันว่าไม่มีการฟาวล์ในจังหวะนั้นแต่ไม่เป็นผลก่อนที่อดัม ลัลลาน่ามายิงประตูตีเสมอนาทีที่ 85
โค้ชชาวเยอรมันกล่าวว่า"เราดีพอที่จะได้มาแต้มหนึ่งนะ เราปล่อยให้ยูไนเต็ดมีโอกาสเล่นในแบบที่พวกเขาต้องการเล่นด้วยแนวรับ 5 คน"
"พวกเขาทำงานหนัก ทิศทางการเล่นของเราไม่ดีพอ เรารู้สึกกดดันตอนที่เราไม่ได้กดดันอะไรเลยและน่าจะเปลี่ยนบอลเข้าในได้ในบางโอกาส"
"ประตูแรกนั้นผมคิดว่าทุกคนเห็นด้วยว่าเป็นการฟาวล์ แต่ VAR บอกว่ามันไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นการฟาวล์ สถานการณ์มันคือแบบนี้"
"เราไม่แพ้แต่มันเป็นการฟาวล์แน่ๆ มีการปะทะกันอย่างชัดเจนและดิว็อค โอริกี้ร่วงลงไป พวกเขาเล่นต่อแล้วก็สวนกลับ ใช่เลย มันมีการปะทะ ผมแน่ใจว่าพวกเขาบอกแบบนี้แต่มันไม่ใช่การฟาวล์แบบจะแจ้งงั้นเหรอ? ไม่เวิร์คเลยนะ มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น"
"จากนั้นเราก็ยิงได้แต่ไม่เป็นประตู ผมยังไม่ได้กลับไปดูแต่บางทีมันอาจเป็นแฮนด์บอล แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เข้าข้างเราเลย"
"เราเปลี่ยนรูปแบบการยืนตำแหน่งเล็กน้อยแล้วก็มีโอกาส จากนั้นเรายิงประตูได้แล้วก็พยายามเล่นไปตามเกม สนามเงียบกริบเลยนะบางทีทุกคนอาจคิดว่าลิเวอร์พูลอาจยิงได้อีกแต่เราก็เอามาแต้มหนึ่งแล้วเดินหน้ากันต่อไป"
"เรามักเจอกับกำแพงเสมอ เราจำเป็นต้องทำให้ดีขึ้นแต่มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ผมไม่คิดว่าแมน ยูไนเต็ดสามารถเล่นแบบนี้ได้หากทีมอื่นไม่ได้ครองบอลมากเท่านี้"
"เราเจอกับทีมที่เล่นแบบนี้บ่อยมากเลยนะ บางทีเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่หนึ่งแต้มก็โอเคแล้วนะ เราขอก้าวกันต่อไป"
"โมเมนตั้มอยู่ที่ยูไนเต็ดในครึ่งแรกเพราะพวกเขาลงไปเล่นเกมรับพวกเราแบบเพียวๆ เราควรทำได้ดีกว่านี้แต่แน่นอนว่าการเล่นแบบนี้มันง่ายกว่าที่จะผ่านบอลผ่านไลน์ไป ในครึ่งหลังเราเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและมันก็ดีขึ้น"
"มันแค่หนึ่งคะแนน ตั้งแต่ผมมาอังกฤษ แมน ยูไนเต็ดเล่นแบบนี้เสมอ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้และเราจะดีกว่านี้ในอนาคต แต่ตอนนี้เราต้องยอมรับมัน"
"ทุกคนพยายามบิ้วด์ให้มันใหญ่โตแต่มีแค่ทีมเดียวที่ต้องตั้งรับและอีกทีมต้องสร้างเกม วันนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ว่าเราชนะบางสิ่ง ก็แค่แต้มเดียว"
