อาลี นาสเซอร์ ผู้ตัดสินในเกมที่ ดิเอโก้ มาราโดน่า ใช้มือชกบอลเข้าประตูช่วยทีมชาติอาร์เจนต้าเอาชนะอังกฤษในรอบก่อนรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก ออกมาพูดถึงตำนานลูกหนังผู้ล่วงลับ
มาราโดน่า เสียชีวิตด้วย 60 ปี กลายเป็นข่าวเศร้าของวงการกีฬาโลกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หนึ่งในเหตุการณ์ไฮไลต์ในอาชีพค้าแข้งของเขาคือจังหวะที่ใช้ "หัตถ์พระเจ้า" ชกบอลตุงตาข่ายทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลกปี 1986 ก่อนที่จะมาเบิ้ลลูกที่สองสุดสวย ช่วยทีมเอาชนะไป 2-1 พร้อมกับกรุยทางไปเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด
แน่นอนว่าจากภาพที่ออกมาเขาใช้มือชกบอล แต่ผู้ตัดสินชาวตูนิเซียไม่ว่าอะไรแม้ผู้เล่นอังกฤษจะพยายามประท้วง
นาสเซอร์ พูดถึงเหตการณ์ในวันนั้นว่า "ผมไม่เห็นมือเขา แต่ผมก็สงสัยอยู่"
"คุณเห็นภาพแล้ว ผมถอยไปขอคำแนะนำจาก (บ็อกดาน)โดเชฟ ผู้ช่วยชาวบัลแกเรีย และพอเขาบอกว่าเป็นประตู ผมก็ให้เป็นประตู"
"ผมเคยผ่านการตัดสินระหว่างสหภาพโซเวียตกับจีนในปี 1985 ผมเป็นคนต้องรับผิดชอบหน้าที่ยากๆของฟีฟ่า"
"ฟีฟ่าให้คะแนนผม 9.4 ในเกมนี้ ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำ แต่มันก็มีความสับสนกันอยู่ หลังจากนั้น โดเชฟ ชี้ว่าเขาเห็นแขนสองแขน และไม่รู้ว่าเป็นของ ชิลตัน หรือ มาราโดน่า"
นอกจากนี้เขายังเผยว่าเตรียมเป่าฟาวล์ในจังหวะที่ มาราโดน่า พลิ้วโซโล่จากกลางสนามเข้าไปยิงประตูที่สองอย่างสุดสวยด้วย เพราะคิดว่าผู้เลนคงจะเสียบคว่ำแน่ๆ
"ผมพร้อมที่จะเป่านกหวีดสำหรับจังหวะฟาวล์อันตรายใส่มาราโดน่า ผมว่าหลังจากลากเลื้อย 50 หลา พวกเขายังไงก็จะเสียบเขาล้มแน่ๆ"
"ผมภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในจังหวะมาสเตอร์พีซ"
หลังจากนั้น มาราโดน่า มีโอกาสได้เจอกับ นาสเซอร์ ที่ตูนิเซีย จากการเดินทางไปถ่ายโฆษณา พร้อมกับมอบเสื้อพร้อมลายเซ็นและข้อความที่ระบุว่า "แด่อาลี เพื่อนตลอดกาลของฉัน"
อดีตผู้ตัดสินกล่าวว่า "เรามีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน วันนั้นผมบอกเขาว่าไม่ใช่อาร์เจนติน่าหรอกที่ชนะ แต่เป็นเขาที่ชนะ"
"เขาเป็นอัจฉริยะ เป็นตำนานฟุตบอล"
"ในฐานะผู้ตัดสิน ผมจะไม่กระพริบตาเลยเวลาที่วิ่งตามเขา เพราะเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง" เขากล่าว