เบน ชิลเวลล์ แก้ตัวจากความผิดพลาดทำทีมเสียจุดโทษ ก่อนจะมาซัดประตูตอกฝาโลงพา เชลซี เปิดรังเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 3-1 ช่วยให้ สิงห์บลูส์ แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม 2564 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 3 พบ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 16 ของตาราง
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี แพ้ 2 นัดติดต่อกันทุกรายการ โดยเกมนี้มีการกมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่งส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงเป็นคู่หน้ากับ โรเมลู ลูากู ส่วนแดนกลางใช้ รูเบน ลอฟตัส-ชีก กับ เทรโวห์ ชาโลบาห์
ด้าน เซาธ์แฮมป์ตัน ของ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล แแดนหน้าใช้ สจ๊วร์ต อาร์มส ล่าตาข่ายคู่กับ เนธาน เร้ดม่อน โดยมี เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ทำเกมอยู่แดนกลาง
เปิดฉากครึ่งแรกมาได้ 9 นาที เชลซี ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะเตะมุม รูเบน รอฟตัส-ชีก เปิดมาเข้าหัวของ เทรโวห์ ชาโลบาห์
หลังจากนั้นนาทีที่ 21 เซาธ์แฮมตัม เกือบตามตีเสมอ ธีโอ วัลค็อตต์ ไหลบอลให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ตั้งป้อมกดด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกไปนิดเดียว
เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาทีที่ 22 เชลซี เกือบได้ลูกสอง รูเบน รอฟตัส-ชีก ตวัดวอลเลย์ด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลข้ามคานไปนิดเดียว
นาทีที่ 29 เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้าย เชลซี เติมขึ้นมาลากตัดเข้าในแล้วยิงยัดเสาแรกแต่ไปเข้าซอง อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่
จากนั้น นาทีที่ 33 ทัพ "นักบุญ" ได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง เปิดมาหน้าปากประตูให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ชิงตัดหน้า ติอาโก้ ซิลวา โหม่งได้ก่อนแต่โดนบางเกินไปบอลผ่านหน้าปากประตูออกไปหวุดหวิด
ถัดมา นาทีที่ 36 เชลซี เกือบได้ลูกสองเมื่อ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เติมขึ้นมาแล้วจ่ายทะลุช่องให้ โรเมลู ลูกากู หลุดมาซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไป แต่มีธงจากผู้ช่วยผู้ตัดสินมาก่อน
นาทีที่ 41 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ ติโม แวร์เนอร์ ขึ้นโหม่งโล่งๆส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็ก VAR จะริบประตูคืนเนื่องจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า มีจังหวะไปทำฟาวล์ก่อนหน้านี้
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรก เชลซี นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0
ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 59 เบน ชิลเวลล์ ไปทำฟาวล์ใส่ วาเลนติโน่ ลีฟราเมนโต้ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ทันที ก่อนจะเป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมตามตีเสมอ เชลซี เป็น 1-1
หลังจากนั้น นาทีที่ 72 เชลซี ชวดขึ้นนำอีกครั้งแบบเหลือเชื่อเมื่อ โรเมลู ลูกากู ตอกส้นให้ ติโม แวร์เนอร์ กระชากเข้าเขตโทษหลุดเดี่ยวก่อนซัดด้วยขวาเน้นๆ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งมาได้
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 77 เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ไปเข้าสัดหนักใส่ จอร์จินโญ่ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะย้อนดู VAR ด้วยตัวเองแล้วกลับมาให้ใบแดงกับมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษ
นาทีที่ 80 เมสัน เมาท์น ตัวสำรองได้ซัดด้วยขวาในเขตโทษแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ รับเข้าซอง
จนกระทั่งนาทีที่ 84 เชลซี ที่ตัวผู้เล่นมากกว่าได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า หลุดมาถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ ติโม แวร์เนอร์ เข้าแท็บอินง่ายๆเข้าไป
เท่านั้นไม่พอท้ายเกม นาทีที่ 89 เชลซี นำห่างเป็น 3-1 เมื่อ เบน ชิลเวลล์ ตามซ้ำดาบสองโล่งๆ แม้ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ จะเซฟออกมาได้ แต่บอลข้ามเส้นเข้าประตูไปแล้ว
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เชลซี ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 ขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - เบน ชิลเวลล์, รูเบน รอฟตัส-ชีก (รอสส์ บาร์คลีย์ น.83), เทรโวห์ ชาโลบาห์, มัตเตโอ โควาซิช (จอร์จินโญ่ น.73) - คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย (เมสัน เมท์น) - ติโม แวร์เนอร์, โรเมลู ลูกากู
เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ - วาเลนติโน่ ลีฟราเมนโต้, แยน เบ็ดนาเร็ก, โมฮาเหม็ด ซาลิซู, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส - นาธาน เตลล่า (มุสซ่า เฌเนโป น.73), โอริโอล โรเมว, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, ธีโอ วัลค็อตต์ (อิบราฮิม่า ดิยัลโล่ น.46) - เนธาน เร้ดม่อน, อดัม อาร์มสตรอง